'อ.เดชา' แถลงโต้ถูกกลั่นแกล้ง เตรียมฟ้องกลับ

'อ.เดชา' แถลงโต้ถูกกลั่นแกล้ง เตรียมฟ้องกลับ

"อ.เดชา" ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นภายในที่ทำการมูลนิธินิธิข้าวขวัญที่ จ.สุพรรณบุรี ยืนยันว่าการแจกจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งสิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับยาและการรักษาเป็นสิทธิพื้นฐาน

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในที่ทำการมูลนิธินิธิข้าวขวัญ ที่ จ.สุพรรณบุรี และจับกุมเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พร้อมของกลางกัญชา 200 ต้น น้ำมันสกัดจากกัญชา กัญชาบดแห้งและเมล็ดกัญชาตากแห้งในข้อหาร่วมกันผลิตกัญชาและครอบครองกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาติ

ด้านประธานมูลนิธิข้าวขวัญ อาจารย์เดชา ศิริภัทร เปิดเผยถึง การแจกจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็ง พาร์กินสัน โรคข้อ ลมชัก และอื่นๆนั้นเป็นเรื่องศีลธรรมที่ต้องทำ เรื่องนี้อยู่เหนือกฎระเบียบล้าหลัง เพราะสิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับยาและการรักษาเป็นสิทธิพื้นฐาน และศีลธรรมพื้นฐาน. แต่หลังจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับปรับปรุงแก้ไข มีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2562 เป็นต้นมา และเปิดโอกาสให้ “หมอพื้นบ้าน” สามารถยื่นขอนิรโทษกรรมการมีกัญชาเพื่อครอบครองทางการแพทย์ได้นั้น ก่อนการเดินทางไปประเทศลาว. ทางมูลนิธิได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ยื่นเรื่องขอนิรโทษกรรม แต่กลับมาถูกจับกุมเสียก่อนทั้งๆที่ยังอยู่ในระยะเวลา 90 วัน และเพิ่งทราบว่า หลังจากที่ตัวแทนของผมได้ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอนิรโทษกรรมเมื่อวานนี้ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าการยื่นขอนิรโทษกรรมต้องมีหลักฐานว่าได้ครอบครองกัญชา ซึ่งตำรวจได้ริบไปหมดแล้ว อีกทั้งอ้างว่าไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผมเป็นหมอพื้นบ้าน ซึ่งจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งๆที่มีหนังสือรับรองจากมูลนิธิสุขภาพไทยที่เป็นผู้ประสานงานเครือข่ายหมอพื้นบ้านทั่วประเทศ ได้แสดงหลักฐานยืนยันก็ตาม

อาจารย์ เดชา ยืนยันว่า นอกเหนือจากการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆและเป็นครูสอนการปรับปรุงพันธุ์ข้าวแล้ว ตนเองยังทำหน้าที่เป็นหมอพื้นบ้านในการแนะนำการใช้สมุนไพร การปลูกพืชที่มีคุณค่าทางอาหารและยา มานานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ตนเองได้สนใจค้นคว้าทดลองยาจากกัญชามาโดยต่อเนื่อง ทั้งจากตำราต่างประเทศ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการทดลองใช้ด้วยตนเองและคนใกล้ชิด เมื่อเห็นว่าสามารถโรครักษาผู้คนได้จึงเริ่มแจกจ่ายยาจากกัญชาเพื่อหวังให้ผู้ป่วยเหล่านั้นพ้นทุกข์จากความป่วยไข้และขอยืนยันอีกครั้งว่า หมอพื้นบ้านทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับอนุญาตให้มีการปรุงยาจากกัญชาเพื่อการรักษาผู้คน

ส่วนในวันพรุ่งนี้ทางอาจารย์เดชาพร้อมทีมทนายความจะเดินทางไปแสดงตัวต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ถนนดินแดง ในเวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากนั้นจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อกำหนดนัดหมายวันเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป