AUCT - ซื้อ

AUCT - ซื้อ

แนวโน้ม 1Q62 เติบโตสูง คาดกำไรทั้งปี 62 โตราว 19%

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไรปี 61 เท่ากับ 170.5 ลบ. +64%YoY (สูงกว่าที่คาด 3.2%) โดยรายได้ปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม 1) รายได้จากการประมูลรถยนต์และรถเกษตร เท่ากับ 532 ลบ. +5%YoY 2) รายได้จากการประมูลรถจักรยานยนต์ เท่ากับ 64 ลบ. +11.7%YoY และ 3) รายได้จากการประมูลอื่นๆ เท่ากับ 21 ลบ. +168%YoY และ 4) รายได้จากค่าขนย้าย เท่ากับ 76 ลบ. +27%YoY นอกจากนี้ การเติบโตของผลประกอบการปี 61ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดกิจกรรมทางตลาด เช่น ทาง Social media (Facebook, Line, WebSite และ Application) งานกิจกรรม “Change Together” และการให้ ดีเจ เพชรจ้า เป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัท
  • ผลประกอบการ 1Q62 มีแนวโน้มเติบโตสูง YoY สอดคล้องกับตัวเลขยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศในช่วง 2M62 อยู่ที่ระดับ 6 แสนคัน เติบโตกว่า 13%YoY ขณะที่ลูกค้ากลุ่มเดิมทยอยส่งรถเข้าลานประมูลอย่างต่อเนื่อง เช่น TOYOTA BUZZ, เบนซ์ทองหล่อ และกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน และล่าสุดบริษัทฯเพิ่งได้รับงานจาก “สมาคมธนาคารไทย” ในการเป็นตัวแทนจัดงานประมูลรถยนต์ นอกจากนี้ การควบคุมค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาและการตลาดช่วยให้กำไรและอัตรากำไรสุทธิในงวด 1Q62 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 62 จากเดิม 7 ลบ. สู่ 202.7 ลบ. เพิ่ม 5.7% เติบโต 19%YoY : เราปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากเดิม 740 ลบ. สู่ 775 ลบ. เพิ่ม 4.7% เติบโต 12%YoY ได้รับอานิสงส์จากปีผ่านมา หลังจากยอดขายรถใหม่ภายในประเทศแตะที่ระดับ 1.04 ล้านคัน +20%YoY ขณะที่ปี 62 คาดว่ายอดขายรถใหม่จะยังคงทรงตัวในระดับสูงที่มากกว่า 1 ล้านคัน (ที่มา : Toyota) ปัจจุบันมีปริมาณสต็อกรถยนต์รอประมูลจำนวนมาก และเพียงพอสำหรับปี 62 บริษัทยังคงเดินหน้าหากลุ่มลูกค้า End-User และกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ผ่านข้อมูลราคารถยนต์หลังจบการประมูลแบบ Real-Time ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีแสดงใน Application บนโทรศัพท์มือถือ “AUCT Friend” ด้านสมมติฐาน %GPM ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับราว 51.5% จากปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.2% จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ส่วน %SG&A ปรับลงมาที่ระดับ 19% จากปี 61 อยู่ที่ระดับ 20.6% เนื่องจากคาดว่าบริษัทฯจะใช้งบการตลาดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิ จากเดิม 191.7 ลบ. สู่ 202.7 ลบ. เพิ่ม 5.7% เติบโต 19%YoY
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมขึ้นสู่ 8.00 บาท จากเดิม 7.60 บาท : เราประเมินราคาเหมาะสมอิงจาก Prospective PE ที่ 21.7x (-1.25SD) พร้อมกับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.37 บาทต่อหุ้น ปรับขึ้นจากเดิมที่ราว 0.35 บาทต่อหุ้น ประเมินราคาเหมาะสมปี 62 เท่ากับ 8.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง

i) อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือยอดขายรถใหม่ภายในประเทศหดตัว
ii) NPL สินเชื่อเช่าซื้อ หรือรถยนต์ ปรับตัวดีขึ้น
iii) กลยุทธ์จับกลุ่ม End User ไม่เป็นไปตามที่คาด