นายกฯ สั่ง 'ผู้ว่าฯภาคเหนือ' ดูการทำงาน 'กำนัน-ผญบ.' ถ้าไม่แก้ไขปลดออก

นายกฯ สั่ง 'ผู้ว่าฯภาคเหนือ' ดูการทำงาน 'กำนัน-ผญบ.' ถ้าไม่แก้ไขปลดออก

นายกฯ สั่ง "ผู้ว่าฯ ภาคเหนือ" มีอำนาจเด็ดขาดแก้ปัญหา “ไฟป่า-หมอกควัน” ตรวจสอบการทำงาน “กำนัน-ผญบ.” ถ้าไม่แก้ไขปลดออก ทั้งให้ส่งรายงานสถานการณ์ เพื่อทูลรายงาน “ร.10”

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 2 เม.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในการลงพื้นที่ตรวจราชการจ.เชียงใหม่ นายกฯได้เป็นประธานติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองหมอกควันและไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนการประชุม

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด ดูแลพื้นที่ตามขั้นตอน วันนี้ที่มาต้องการจะรับฟังการแก้ปัญหาและอุปสรรคการทำงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมขอทราบแนวทางการปฏิบัติทั้งหมด วันนี้มีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วม ติดตามสถานการณ์การแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือด้วย เป็นจะมาช่วยกันระดมสติปัญญาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ครบทุกมิติ ต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้ภายใน 7 วันข้างหน้า ทั้งในป่าภูเขา พื้นที่การเกษตรและพื้นที่เขตเมือง ต้องได้รับการแก้ปัญหาในทุกมิติ ตนได้ทราบการทำงานที่ผ่านมาโดยละเอียดอยู่แล้ว แต่วันนี้จำเป็นจะต้องทำงานที่ลงในรายละเอียดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาเร็วขึ้น ยืนยันถ้ามีปัญหาอุปสรรคใดๆ รัฐบาลพร้อมที่สนับสนุนและยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ ที่จะลงมาในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาได้ตามเป้าหมาย

จากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าถึงสถานการณ์การแก้ไขปัญหา หมอกควันและไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือ โดยนายกฯ กล่าวว่า ฝากภาคเอกชน นักวิชาการ รวมถึงครู อาจารย์ ช่วยกันสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชน และนักเรียน นักศึกษา ช่วยกันระดมสร้างความดีให้กับประเทศชาติ การจัดกิจกรรมออกค่ายอาสาให้เห็นข้อปัญหาข้อเท็จจริง เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง รวมถึงช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจ เพราะปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่การขาดความเข้าใจและขาดความร่วมมือของทุกคน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนของหน่วยงานภาครัฐขอให้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน นำปฏิบัติการถ้ำหลวงมาเป็นแบบอย่างการทำงานที่ดี ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหา ตรวจสอบการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่ยังเกิดปัญหา หากไม่แก้ไขให้ลงโทษ และปลดออกตามลำดับ รวมถึงให้ทำรายงานสรุปสถานการณ์ประจำวันให้เห็นถึงความเคลื่อนไหว เสนอตามสายงาน และส่งให้นายกฯเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับทราบต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการทำงานในพื้นที่ขอให้ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน อาสาสมัครลงพื้นที่เข้าไปยังจุดฮอตสปอตแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที จัดเจ้าหน้าที่ลาดตะเวนกันขยายพื้นที่ รวมถึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ระมัดระวังไม่ให้เกิดความสูญเสีย ในระยะสั้นนายกฯได้กำชับจังหวัดและกองทัพในพื้นที่เพิ่มความถี่ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ จัดพื้นที่เซฟตี้โซนสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็กและผู้สูงอายุ ให้มีการตรวจและการปราบปรามการลักลอบเผาป่าและจับกุมผู้กระทำความผิด บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกคนจะต้องไม่เผาป่า ต้องเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ที่ยังติดกันอยู่ ตนโทษใครไม่ได้ ถ้ารัฐบาลจะใช้มาตรการเด็ดขาดก็ควบคุมประชาชนทั้งหมดห้ามเข้าป่าได้ไหมล่ะ วันนี้ก็มีมาตรการคนอยู่กับป่า ป่าชุมชนให้เข้าได้ แต่ไม่ใช่ไปเผาป่า ที่ผ่านมามีการจับผู้กระทำผิดแล้วก็ไม่เห็นหยุด แต่ท่านก็ต้องเห็นใจเขาบ้างเหมือนกัน เพราะท้ายที่สุดเขาก็บอกรังแกคนจน วันนี้ตนได้สั่งใช้กฎหมายเต็มที่แล้ว เดี๋ยวตำรวจก็จับหมด ในส่วนการปลูกข้าวโพดข้างบน ข้อมูลกระทรวงเกษตรฯ เขาคุมอยู่แล้ว ต่อไปนี้ต้องสำรวจหากปลูกในพื้นที่บุกรุกเราจะไม่ซื้อ ปิดเส้นทางทั้งหมด เพราะฉะนั้นนายทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันด้วย วันนี้ก็มีรายงานว่า มีการจุดธูปในป่าด้วย จุดเพื่อไหวหรือเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแล ไม่ใช่การทำร้ายประชาชน เดี๋ยวจะหาว่าทหารไปทำร้ายประชาชนอีก สื่อก็เขียนกันแบบนี้ทุกที พอทหารไปสื่อก็เขียนว่าใช้เผด็จการต่างๆ ฉันว่าฉันทำดีที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่มาครั้งนี้ เนื่องจากยังไม่พอใจการดำเนินการแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันยังไม่อยู่ในอันดับที่พอใจ ยังมีจุดความร้อนมากขึ้นก็เท่านั้น แต่วันนี้การจุดไฟก็ลดลง ต้องแก้ปัญหาที่คน เราก็พยายามหาที่อยู่ที่กินให้เขา แต่เขาก็ไม่อยากออกมา นั่นคือปัญหา ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากขึ้น และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีความอ่อนไหว ขณะที่การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนไปแล้ว 1.7 ล้านชิ้นแล้ว

ต่อมา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปยังวัดบุพพาราม ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจการเตรียมความพร้อมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จะจัดให้มีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยนายกรัฐมนตรีได้ไหว้พระประธาน และสักการะรูปปั้รสม้ด็จพระนเรศวรมหาราช และเข้ากราบนมัสการพระมหาดวงรัตน์ ฐิตรตโนเจ้าอาวาทวัดบุพพาราม พร้อมสนทนาธรรม โดยนายกฯ ได้สอบถามความเป็นมาของวัดดังกล่าว

จากนั้น นายกฯ ได้เข้าไปยังบ่อน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และชมนิทรรศการบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเจ้าอาวาทอธิบายความเป็นมาของน้ำศักดิ์สิทธิ์แต่ละแหล่งที่มา และในเวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดประตูท่าแพนายกพร้อมคณะไม่ได้จอดรถลงโดยได้นั่งรถผ่านให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ทั้งนี้ที่นายกรัฐมนตรีไม่จอดลงเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากขบวนของคณะนายกรัฐมนตรีมีเจ้าหน้าที่ติดตามจำนวนมาก