หัวเว่ยเผยปี 61 ธุรกิจโตแกร่ง โกยรายได้ 7 แสนล้านหยวน
หัวเว่ยเผยปี 2561 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีรายได้รวม 7.212 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 19.5% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิ 5.93 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.1% จากปีก่อนหน้า
นายกัว ผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระ หัวเว่ย กล่าวระหว่างแถลงผลประกอบการประจำปีว่า เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลได้เข้าไปมีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นดิจิทัลและอัจฉริยะ อันเป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการลงทุนในด้านนวัตกรรม 5จี อย่างมหาศาลและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการติดตั้งใช้งานเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่
หัวเว่ยมุ่งมั่นสร้างการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ดีที่สุดในโลกและตลอดทั้งกระบวนการ โดยจะปฏิบัติตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ขณะที่ทำงานเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายนี้ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
มั่นใจว่าบริษัทต่างๆ ที่เลือกทำงานกับหัวเว่ยจะมีศักยภาพในการแข่งขันมากที่สุดในยุค 5จี และประเทศที่เลือกทำงานกับหัวเว่ยจะได้รับประโยชน์จากคลื่นการเติบโตลูกต่อไปในเศรษฐกิจดิจิทัล
"วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำลายป้อมปราการคือการโจมตีจากภายใน ส่วนวิธีที่ง่ายที่สุดในการเสริมกำลังการทำลายก็คือการโจมตีจากด้านนอก จากนี้ต่อไปเราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อกำจัดสิ่งรบกวนภายนอกพัฒนาการบริหารจัดการและสร้างความก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา เราจะดำเนินการปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบให้รัดกุมยิ่งขึ้นสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจมีความต่อเนื่องและยั่งยืนและสร้างระบบนิเวศแบบเปิดที่ผู้เล่นทุกคนสามารถทำงานไปด้วยกันและประสบความสำเร็จร่วมกันนอกจากนี้เราจะยังดำเนินการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่ความมุ่งมั่นและพลังใจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมตลอดทั้งองค์กร"
ในธุรกิจโทรคมนาคมหัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชั่น 5จี และ SoftCOM เอไอล่าสุด โดยมุ่งเน้นการใช้งานและการบำรุงรักษาที่เรียบง่ายที่สุดในปี 2561 ยังได้เห็นนวัตกรรมด้านต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องอาทิบรอดแบนด์บ้านระดับพรีเมี่ยมและอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (ไอโอที) ช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถคว้าโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ยอดขายของกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ยในปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 2.94 แสนล้านหยวนใกล้เคียงกับปีก่อน
ส่วนธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยยังคงให้บริการคลาวด์, บิ๊กดาต้า, ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และโซลูชั่นไอโอทีรวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์ข้อมูล, สตอเรจแบบ All-Flash และไวไฟ โดยผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัลหัวเว่ยได้ช่วยสร้างเมืองอัจฉริยะเมืองปลอดภัยและสมาร์ทแคมปัสมากมายและช่วยขับเคลื่อนลูกค้าทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลทั้งในภาคการเงินการขนส่งและพลังงาน ในปี 2561 ยอดขายของธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์อยู่ที่ 7.44 หมื่นพันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 23.8% จากปีก่อนหน้า
ส่วนธุรกิจคลาวด์เปิดตัวบริการคลาวด์ 160 รายการและโซลูชั่นอีก 140 รายการและทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยโซนที่พร้อมใช้งาน 40 โซนใน 23 ภูมิภาค โดยในกลุ่มนี้หัวเว่ยมีพันธมิตรมากขึ้นกว่า 6,000 รายแล้วและมีโครงการค้นคว้าหานวัตกรรมการใช้งานบริการเอไอกว่า 200 โครงการครอบคลุม 10 อุตสาหกรรมหลัก
สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกได้มากขึ้นและยกระดับตำแหน่งทางการตลาดของดีไวซ์ระดับไฮเอนด์ให้ขยับขึ้นไปได้อีก
นอกจากนี้ ยังประสบความในการสร้างระบบนิเวศอัจฉริยะรองรับผู้ใช้งานทุกกลุ่มโดยมีรายได้ในธุรกิจคอนซูเมอร์มูลค่าสูงถึง 3.489 แสนล้านหยวนเพิ่มขึ้น 45.1% จากปีก่อน
ปี 2561 หัวเว่ยลงทุนวิจัยและพัฒนาเป็นจำนวนเงิน 1.015 แสนล้านหยวนหรือคิดเป็น 14.1% ของรายได้ถือเป็นบริษัทที่ทุ่มงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนามากที่สุดเป็นอันดับที่ห้าของโลกตามข้อมูลของ 2018 EU Industrial R&D Investment Scoreboard โดยในช่วงสิบปีที่ผ่านมาการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ยได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 480 พันล้านหยวน และตามข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่โดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ในปี 2561 หัวเว่ยได้ยื่นขอสิทธิบัตรรวมทั้งสิ้น 5,405 รายการซึ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาบริษัททั้งหมดทั่วโลก
