รีบาวด์ต่อเนื่อง

รีบาวด์ต่อเนื่อง

SET Index เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้น สวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก สศค.

เผย เศรษฐกิจภูมิภาค เดือนก.พ.นำโดยกทม.ปริมณฑล,ตะวันตก,อีสาน ยังขยายตัวจากบริโภค-ลงทุนเอกชน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,634.25 จุด (+4.85 จุด) Volume 4.8 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  +64.98 ลบ. TFEX Net +21,460 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้
-1,064 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 91.87 จุดหลังพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาอายุ 10 ปีฟื้นตัว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์

+สทท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นท่องเที่ยวฯ Q1/62 ยังทรงตัว คาดทั้งปียอดต่างชาติโต 6.17%

+ธปท.มองหากการเมืองไร้เหตุวุ่นวายจะหนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ตามเป้า 3.8-3.9% , ลุ้น S&P ปรับเพิ่มเรทติ้ง

-น้ำมันปรับลดหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯเรียกร้องโอเปกเพิ่มกำลังผลิต

-สหรัฐเผย GDP Q4/61 ชะลอตัวสู่ 2.2% ต่ำกว่าคาดการณ์

-สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายร่วงลง 1.0% ในเดือนก.พ.

-"เอสแอนด์พี"หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้เหลือ 1.1% จากเดิม 1.6%

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.44 หมื่นล้านบาท ค่าเงินบาท 31.84 บาท/US

**วันนี้ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย / รัฐสภาอังกฤษลงมติครั้งที่ 3 ต่อข้อตกลง Brexit

คาดดัชนี SET มีโอกาสรีบาวด์ต่อเนื่องจากปัจจัยภายในเรื่องการเมืองหลังกกต.รายงานผลเลือกตั้ง 100% อย่างไม่เป็นทางการ และการที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดบวกและความหวังในการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนมีความคืบหน้า แต่มีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (WHA AMATA) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC SEAFCO) กลุ่มค้าปลีก (CPALL BJC MAKRO)
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มรพ.(BCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO RATCH)
  • ขยายเวลา Visa On Arrival : AOT CENTEL ERW

หุ้นแนะนำพิเศษ

PREB – Analyst Meeting “มุมมองบวก” ราคาปิด 10.60 บาท

  • ผู้ประกอบธุรกิจ 1) รับเหมาก่อสร้าง (สัดส่วน 88%) 2) ผลิตแผ่นพื้น (วัสดุก่อสร้าง) (สัดส่วน 12%) และ 3) อสังหาริมทรัพย์ (สัดส่วน 0%)
  • ปี 61 แม้รายได้จากงานรับเหมาฯ เท่ากับ 3,427 ลบ. -16%YoY จากงานล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ ประกอบกับผู้ว่าจ้างตัดบางรายการออกในสัญญาออกไป อย่างไรก็ตาม %GPM ของกลุ่มงานรับเหมาฯปรับดีขึ้นสู่ระดับ 5% จาก 13.3% ในปี 60 จากความสามารถในการควบคุมต้นทุน ส่งผลให้กำไรขั้นต้น เท่ากับ 600 ลบ. +10.3%YoY ขณะที่งานผลิตแผ่นพื้นยังคงเติบโตดี มีรายได้ เท่ากับ 469 ลบ. +15%YoY ส่วนกำไรสุทธิ เท่ากับ 384 ลบ. -45%YoY เนื่องจาก ปี 60 มีกำไรพิเศษจากการขายส่วนงานที่ยกเลิก หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติปี 61 เติบโต 31.5%YoY
  • แนวโน้มปี 62 ผบห.ตั้งเป้ารายได้ราว 4,675 ลบ. +20%YoY จาก 1) งานรับเหมาก่อสร้างที่มี Backlog ปลายปี 61 ราว 8,141 ลบ. คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้ราว 50% หรือราว 4,000 ลบ. ส่วนงานผลิตแผ่นพื้นตั้งเป้ารายได้ราว 575 ลบ. จาก Backlog ปลายปี 61 ราว 571 ลบ. ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการรวม 4,340 ลบ. คาดจะรับรู้ในปีนี้เพียงแค่ราว 90 ลบ. ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 63-65 นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มอีก 4 แปลง งบลงทุนราว 1,500 ลบ.
  • เรามีมุมมองบวกต่อแผนการเติบโตของบริษัทฯ ประกอบกับบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้น้อย D/E Ratio อยู่ที่ระดับ 0.8 เท่า และมีสภาพคล่องสูง โดยมีเงินสดในมือราว 441 ลบ. จ่ายปันผลเฉลี่ยราว 7-8% ต่อปีตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.8 บาทต่อหุ้น คิดเป็น yield ที่ 7.5% XD วันที่ 9 พ.ค.62

หุ้นมีข่าว   

·         RS (ราคาปิด 18.70 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 21.75) ในวันนี้ (29 มี.ค.) จะย้ายมาเทรดในหมวดธุรกิจพาณิชย์และค้าปลีก จากเดิมหมวดธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ หลังเดินแผนธุรกิจสร้างการเติบโตอย่างชัดเจนทั้งแนวราบและแนวตั้ง บริษัทคาดรายได้รวมปีนี้ราว 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%YoY และคาดว่ารายได้ธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (MPC : Multi Platform Commerce) จะมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41%YoY และตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ของธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการขยายช่องทางขายการขยายแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุดในขณะนี้เป็นแพลตฟอร์มทีวี อาทิ ช่อง 8 ช่องไทยรัฐทีวี T Shopping ช่อง 2 ช่องสบายดีทีวี ช่องเพลินทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ซึ่งเข้าถึงผู้ชมมากกว่า 20 ล้านคน พร้อมด้วยแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ www.shop1781.com, LINE@shop1781, LINE@COOLanything รวมถึงผ่าน LifestarBIZ หรือตัวแทนขายตรง และห้างค้าปลีก Modern Trade และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ

·         ความเห็น การปรับโครงสร้างธุรกิจหนุนศักยภาพการเติบโตของรายได้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 683 ล้านบาท +32%

·         + BANPU (ราคาปิด 16.10 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 21.05) ประกาศเป้าชัดขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยีพลังงานเอเชียใน 7 ปี วางเกมขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน แบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ถ่านหินจะลดกำลังผลิตหันเป็นเทรดเดอร์มากขึ้น พร้อมทุ่มหนักลงทุน Shale Gas สหรัฐ คงเป้า BPP กำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 4.3 พันเมกะวัตต์ ปี 2568 (ที่มาทันหุ้น)

·         + SELIC ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/2562 เทิร์นอะราวด์ ปักเป้ารายได้ปีนี้โตก้าวกระโดดแตะ 1.6 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้จาก PMC เข้ามาเต็มปี พร้อมศึกษาซื้อธุรกิจเพิ่ม ย้ำแผนบุกตลาด CLMV และออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หวังรักษาฐานเดิม-ขยายฐานใหม่(ที่มาทันหุ้น)

·         INTUCH (ราคาปิด 57.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 62.64) เตรียมพร้อมเข้าคำนวณดัชนี MSCI ตามเกณฑ์ NVDR ชี้ส่งผลดีดึงกองทุนสนใจเพิ่ม เล็งโรดโชว์ยุโรป-สหรัฐ เดินหน้าเจรจา VC ต่อเนื่อง หวังชัดเจนเร็วๆ นี้ รับรายได้รวมอาจลดลงตามไทยคมแต่ยังปันผลดี เตรียมนำคลื่น 900 เมกะเฮริตซ์ ไปให้บริการ 3G หรือ 4G หลังยุติ 2G เพิ่มโอกาสธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

·         บิ๊ก SPALI (ราคาปิด 18.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 23.10) โล่ง หลัง ธปท. ประกาศพร้อมปรับปรุงเกณฑ์ LTV ให้เหมาะสมเพื่อไม่กระทบประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง เล็งเป้าปลดล็อกผู้กู้ร่วม-ผู้ค้ำประกันมีโอกาสมีบ้าน (ที่มา ทันหุ้น)

·         LH (ราคาปิด 10.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 12.01) เล็งคลอดหุ้นกู้ 5-6 พันล้านบาท เดือนเมษายน หวังลดต้นทุนการเงินต่ำจากปัจจุบัน 2.4% เผยยอดขายมีนาคม 2562 ดีขึ้น เปิด 4 โครงการแล้วมั่นใจปีนี้ยอดขายตามเป้า 3.3 หมื่นล้านบาท เตรียมขายเซ็นเตอร์พ้อยท์สุขุมวิท ทองหล่อ เข้ากอง LHHOTEL ตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)

·         WHAUP (ราคาปิด 5.85 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 7.89) เตรียมงบฯลงทุน 5 ปี 10,000 ล้าน รุก 3 ธุรกิจหลัก “สาธารณูปโภค-ไฟฟ้า-ก๊าซ” ส่วนงบฯปี 2562 อีก 2,200 ล้าน โดยล่าสุดลงทุนในธุรกิจน้ำประปาสำหรับอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามมูลค่าประมาณ 31.9 ล้านบาท มีกำลังการผลิตน้ำประปาทั้งสิ้น 3,000 ลบ.เมตร/วัน และโครงการขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์บนหลังคา ให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม WHA ทั้ง 8 แห่งคิดรวมกำลังผลิตไฟฟ้าปีนี้ได้ 25 เมกะวัตต์

·         KTC (ราคาปิด 34.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 36.77 ) เดินเกมเหนือเมฆ ตั้งเป้าอีก 5 ปีข้างหน้า ดันกำไรทะลุ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 7 พันล้านบาท และธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาเป็นเรือธง คือ นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ สร้างกำไรเพิ่มไม่น้อยกว่า 8 พันล้านบาทต่อปี ด้านแหล่งข่าวจากคลังเผย บอร์ด “แบงก์กรุงไทย พร้อมจ้าง “ระเฑียร” นั่งซีอีโอต่อ หลังจะเกษียณในช่วงเดือนพ.ย.นี้ เหตุหาคนมีความสามารถเทียบเท่ามาแทนไม่ได้