'โรงงานผลิตพืช' โนว์ฮาวไบโอเทคเตรียมรับกระแส 'กัญชา'

'โรงงานผลิตพืช' โนว์ฮาวไบโอเทคเตรียมรับกระแส 'กัญชา'

ดอกดารารัตน์ ต้นใบบัวบกและฟ้าทะลายโจรให้พฤกษสารเข้มข้นสูง ผลผลิตนำร่องจาก “โรงงานผลิตพืช” (Plant Factory) ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย จ.ปทุมธานี และเตรียมพร้อมสำหรับพืชมูลค่าสูงชนิดอื่นๆ อย่างเช่น กัญชา

สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า โรงงานผลิตพืชของไบโอเทคสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มทดลองปลูกพืชสมุนไพรนำร่อง คือ ใบบัวบก ฟ้าทะลายโจร เพื่อศึกษาปัจจัยการเพาะปลูกที่ทำให้สร้างสารออกฤทธิ์สำคัญปริมาณสูง โดยเป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชในระบบปิดหรือกึ่งปิด ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างสมบูรณ์ เช่น ช่วงคลื่นแสง ความเข้มแสง อุณหภูมิ ความชื้น แร่ธาตุต่างๆ รวมถึงการไหลเวียนของอากาศ ทำให้ได้ผลผลิตสูงและควบคุมปริมาณสารสำคัญตามต้องการ

เฉลิมพล เกิดมณี หัวหน้าทีมวิจัยนวัตกรรมโรงงานผลิตพืชสมุนไพร กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้เติบโตเร็วมากและก้าวข้ามเรื่องของต้นทุนที่แม้ปัจจุบันยังราคาสูง แต่ไทยมีต้นทุนค่าไฟและแรงงานที่ถูกกว่าญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน หากมุ่งเป้าไปยังสมุนไพรเพื่อสร้างสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเกรดการแพทย์ระดับพรีเมียมก็จะเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรไทยได้อีกมาก นอกจากนี้ ไบโอเทคยังมีส่วนในการจับคู่ธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทย 7 รายกับ ญี่ปุ่น 4 รายในปี 2562 เพื่อนำเทคโนโลยีโรงงานผลิตพืชไปต่อยอดใช้ประโยชน์ ซึ่งเงื่อนไขหลักคือ มีตลาดปลายน้ำอยู่แล้ว เมื่อนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จะเป็นการติดปีกให้ธุรกิจเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว อาทิ วีทีแหนมเนืองที่ใช้เวลาล้างผักนานหลายชั่วโมง แต่การใช้โรงงานผลิตพืชที่ทำให้ผักปลอดภัย สามารถเก็บและบรรจุได้เลย

ภายในโรงงานผลิตพืชต้นแบบ จะมีทั้งระบบไบโอรีแอคเตอร์ที่สามารถผลิตพืชได้มากขึ้น 5-6 เท่าจากระบบการเพาะปลูกแบบเดิม โดยสามารถกำหนดได้หลากหลายทั้งการแตกกอ ออกดอก เพิ่มยอด เพิ่มขนาดและจำนวนราก เป็นต้น รวมถึงควบคุมระบบไฟได้กว่า 1 หมื่นแบบ เพื่อออกแบบพืชให้มีลักษณะตามโจทย์ที่ต้องการ จุดเด่นคือ สามารถปลูกพืชได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ขึ้นกับฤดูกาล การปลูกพืชในชั้นปลูกซึ่งสามารถปลูกซ้อนกันได้สูงสุดถึง 10 ชั้น ทำให้เพิ่มผลผลิตได้มากถึง 10 เท่า ที่สำคัญการปลูกพืชในระบบปิดและมีระบบกรองอากาศทำให้ปราศจากเชื้อโรคและแมลง ไม่ต้องใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช ได้ผลผลิตที่ได้สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดีและมีราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปประมาณ 1.3 เท่า นับเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีการผลิตพืชที่จะยกระดับสู่การเกษตรแบบแม่นยำ

ทั้งนี้ ในญี่ปุ่น ฤดูกาลที่ส่งผลต่อคุณภาพของพืช เช่น หน้าฝนนั้น ผักชีมีราคาแพงเพราะปลูกได้น้อย คุณภาพไม่ดีเท่า แต่โรงงานผลิตพืชจะทำให้ได้ผักชีที่มีคุณภาพเท่ากัน ราคาเท่ากันทุกฤดู ทางไบโอเทคจึงเริ่มนำรองในสมุนไพร 2 ชนิดดังกล่าว ใบบัวบกธรรมชาติใช้เวลาราว 3 เดือนในการเก็บเกี่ยว และต้องเผชิญกับโรคและศัตรูพืช แต่การทดลองในโรงงานผลิตพืชพบว่า สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกเดือน ซึ่งหมายความว่า ใน 6 เดือนที่การปลูกแบบธรรมดาจะเก็บได้ 2 รอบ แต่ในโรงงานผลิตพืชจะเก็บได้กว่า 5 รอบ พร้อมกับลดใช้แรงงานคนที่กำลังขาดแคลน และเสริมด้วยปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติ

“ภายในปี 2562 คาดว่า ข้อมูลล็อตแรกของทั้งไบบัวบกและฟ้าทลายโจรจะเสร็จ และจะเตรียมความพร้อมสำหรับพืชมูลค่าสูงอื่นๆ อาทิ กัญชา ที่มีการปลดล็อคเพื่อการวิจัยแล้ว และอื่นๆ ที่มีฤทธิ์ทดแทนยาปฏิชีวนะหรือยาแผนปัจจุบัน เพื่อปูทางสู่การพัฒนายาทางเลือกในตลาดโลก จะทำให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมุนไพรระดับบนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใน 5 ปี” เฉลิมพล กล่าว

นอกจากนี้ ไบโอเทคยังมีโรงงานผลิตพืชต้นแบบระดับชุมชนอยู่ที่ ต.นาราชควาย จ.นครพนม จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบการผลิตสมุนไพรของจังหวัด ให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสำหรับผลิตยาให้แก่โรงพยาบาลเรณูนคร เพื่อใช้ในโรงพยาบาลและกระจายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของ จ.นครพนม