กสทช.ไฟเขียวเงินหนุน "เทเลเฮลธ์"

กสทช.ไฟเขียวเงินหนุน "เทเลเฮลธ์"

บอร์ดกสทช.อนุมัติสนับสนุนโครงการ แพทย์ทางไกลของกรมราชทัณฑ์ วงเงิน 18.8 ล้านบาท หวังผู้ต้องขังเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า วานนี้ (26 มี.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. มีมติอนุมัติสนับสนุนโครงการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมของระบบโทรเวชกรรมสำหรับผู้ต้องราชทัณฑ์ ของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม วงเงินงบประมาณ 18,820,850 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 24 เดือน ตามที่โดยมีเงื่อนไขให้กรมราชทัณฑ์ ต้องบริหารงบประมาณที่ได้รับภายใต้กฎหมาย ระเบียบที่ทางราชกรกำหนด และกรณีมีการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และหากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ากรอบวงเงินที่กำหนด ให้นำคืนส่งกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ตามการพิจารณาของที่ประชุมบอร์ดกองทุน กทปส.

สำหรับโครงการนี้จะเป็นการรักษาทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ เทเลเฮลธ์ เตรียมนำร่องในเรือนจำ 2 แห่ง ได้แก่ เรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี และเรือนจำจังหวัดเชียงราย สาเหตุที่เลือกเนื่องจากทั้งสองเรือนมีจำนวนผู้ต้องขังจำนวนมาก โดยเรือนจำเขาบิน จะให้การรักษาผู้ต้องขังโดยเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลจังหวัดราชบุรี ส่วนเรือนจำจังหวัดเชียงรายจะเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะทำให้เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ต้องขังให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในเรือนจำโดยได้รับการบริการที่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพเท่าเทียมกับบุคคลภายนอก สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม

นายก่อกิจ กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. เห็นว่า โครงการนี้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ มาตรา 52 (2) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรสื่อสาร การวิจัยและพัฒนาด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมฯ ตลอดจนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งการให้บริการเทเลเฮลธ์ นั้น สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการบริการในโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ในพื้นที่ที่ กสทช. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ

โดยจะมีการให้บริการดังกล่าว ในพื้นที่ชายขอบจำนวน 3,920 หมู่บ้าน ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 พ.ค. 2562 นี้ และได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานบริการเทเลเฮลธ์