‘ซิสโก้’ดันสินค้าใหม่เขย่าลงทุนไอที

‘ซิสโก้’ดันสินค้าใหม่เขย่าลงทุนไอที

ลุยเจาะภาคการผลิต สาธารณูปโภค หนุนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น

“ซิสโก้” ชี้ลงทุนไอทีไทยโตไม่หยุด ภาคธุรกิจตื่นตัวใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ ซิเคียวริตี้ ล่าสุดลุยจัดงานอีเวนท์ใหญ่โชว์เคสนวัตกรรม พร้อมดันสินค้าใหม่เจาะลูกค้าภาคการผลิต สาธารณูปโภค ช่วยลูกค้าดิสรัปธุรกิจรับดิจิทัล

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า การลงทุนด้านไอทีของภาคธุรกิจในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่สนับสนุนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น คลาวด์ และซิเคียวริตี้

ดังนั้น แนวทางธุรกิจของซิสโก้มุ่งทำตลาดให้สอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าว ล่าสุด จัดงานงานแสดงโซลูชั่นและนวัตกรรม “ซิสโก้ คอนเน็ค ไทยแลนด์ 2019” เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ อัพเดตแนวโน้มเทคโนโลยี นวัตกรรม พร้อมสาธิตการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นมัลติคลาวด์, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที), ดาต้าเซ็นเตอร์ , เน็ตเวิร์ค, เน็กซ์-เจน คอลลาบอเรชั่น, 5จี และซิเคียวริตี้ ครั้งนี้มีลูกค้าและพันธมิตรสนใจเข้าร่วมงานกว่า 800 คน

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ เช่น “Cisco Realware” อุปกรณ์สวมใส่แห่งอนาคตที่ใช้คำสั่งผ่านเสียง ช่วยให้การทำงานร่วมกันกับผู้อื่นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น “Cisco Multi-cloud” ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น “Cisco WebEx Roomkit Mini” มิติใหม่ของการประชุมทางไกลแบบโคเวิร์คกิ้งสเปซที่สามารถเชื่อมต่อโคเวิร์คกิ้งสเปซได้หลายที่พร้อมกัน รวมถึงทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ “Cisco DNA Assurance” ช่วยประสานข้อมูลการทำงานร่วมกันของระบบไอทีอินฟราสตรักเจอร์ ปลดล๊อคการแก้ปัญหาระบบเครือข่ายที่ไร้ประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาในการหาสาเหตุของปัญหา “Cisco Threat Response (CTR)” นวัตกรรมทางด้านซิเคียวริตี้ที่นำแมชีนเลิร์นนิงมาช่วยวิเคราะห์ ทำให้ธุรกิจสามารถทราบได้ว่าการโจมตีเกิดจากที่ใด สามารถสืบสวน วิเคราะห์เส้นทางการโจมตี ลดระยะเวลาปิดการโจมตี และแก้ปัญหาที่ตรงจุด

เขาเผยว่า ลูกค้าในไทยให้ความสนใจกับการลงทุนเทคโนโลยีคลาวด์อย่างมาก รวมไปถึงโซลูชั่นการทำงานร่วมกัน การทำเวิร์คเพลสทรานส์ฟอร์เมชั่นซึ่งเอื้อให้สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เพียงแต่ในห้องประชุมเท่านั้น ขณะเดียวกันทั้งระดับประเทศและอาเซียนตื่นตัวลงทุนด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้

ที่ผ่านมา ซิสโก้จึงมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจในหลายส่วนเพื่อให้สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำตลาด การนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ รวมถึงการทำงานร่วมกับพันธมิตร โดยพยายามสื่อสารออกไปให้เห็นว่าซิสโก้ไม่ได้มีเพียงฮาร์ดแวร์ แต่พร้อมให้บริการทั้งซอฟต์แวร์ โซลูชั่น การบริการ จากนี้จะมีโมเดลการทำตลาดรูปแบบเช่าใช้มากขึ้นเพื่อผลักดันให้รายได้เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

สำหรับ 5 แกนหลักที่ให้ความสำคัญประกอบด้วย เทคโนโลยีระบบเน็ตเวิร์ค, มัลติคลาวด์, ซิเคียวริตี้, การใช้งานดาต้า, และการพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้ ในไทยที่จะโฟกัสอย่างมากคือ ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ เน็ตเวิร์ค และมัลติคลาวด์ กลุ่มลูกค้าที่โฟกัสคือ การเงินการธนาคาร การผลิต สาธารณูปโภค ภาครัฐ และการศึกษา

พร้อมกันนี้ สนับสนุนให้ธุรกิจองค์กรลงทุนด้านดิจิทัลรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และอินเทอร์เน็ต 4.0 ที่จะมีการนำเทคโนโลยีโมบาย โซเชียล อนาไลติกส์ คลาวด์ และไอโอทีมาผสมผสานเพื่อเสริมศักยภาพการทำธุรกิจ ที่ขาดไม่ได้ปูทางให้ลูกค้าพร้อมใช้งานเทคโนโลยีทั้ง 5จี และไวไฟ 6 ที่กำลังมาถึงในอนาคตอันใกล้

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของซิสโก้ในไทยมาจากภาครัฐ 35% เอกชน 45% โทรคมนาคม 20% ภาพรวมผลประกอบการปี 2562 หวังว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก รับปัจจัยบวกดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น