ลุ้นจัดตั้งรัฐบาล

ลุ้นจัดตั้งรัฐบาล

SET Index เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการมีมติคงอัตราดอกเบี้ยของทั้งเฟดและกนง. รวมถึงนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันกลับมาเป็นซื้อสุทธิอีกครั้ง

ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,646.29 จุด (+12.29 จุด) Volume 4.6 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  +2,291.81 ลบ. TFEX Net +6,402 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -1,449 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้นแตะ 11.8% สูงสุดในรอบ 11 เดือนในก.พ.

+อียูให้อังกฤษเลื่อนเวลาออกจากกลุ่ม 2 สัปดาห์โดยเลื่อนจากวันที่ 29 มีนาคม ไปเป็นวันที่ 12 เมษายน (ที่มาข่าวหุ้น)

-ดาวโจนส์ปิดร่วง 460.19 จุด เหตุนลท.วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหลังเผย PMI ลดลง

-น้ำมัน WTI ปิดลบ 94 เซนต์ เหตุนลท.วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบอุปสงค์น้ำมัน

-ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนปรับตัวลงสู่ 51.3 ต่ำสุดรอบ 2 เดือนในมี.ค.

-ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-บริการสหรัฐปรับตัวลงสู่ 54.3 ต่ำสุดรอบ 6 เดือนในมี.ค.

-"ทรัมป์" ประกาศรับรองที่ราบสูงโกลันเป็นเขตแดนของอิสราเอล ด้านอิหร่านไม่พอใจการกระทำดังกล่าว

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 11.3 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.65 บาท/US

**จับตากกต.ประกาศผลการเลือกตั้งในช่วงบ่ายวันนี้

คาดดัชนี SET มีปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ร่วงลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว นักลงทุนรอฟังข่าวผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,660 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (WHA AMATA) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC SEAFCO) กลุ่มค้าปลีก (CPALL BJC MAKRO)
  • กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มรพ.(BCH)
  • ขยายเวลา Visa On Arrival :  AOT  CENTEL ERW

หุ้นแนะนำพิเศษ

FPI ราคาปิด 2.34 บาท “มุมมองบวก”

  • รายได้ปี 61 อยู่ที่ 1,940.2 ลบ. ลดลง 2%YoY เนื่องจากบริษัทฯชะลอการขายให้กลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง หลังชำระหนี้ล่าช้า ขณะที่กำไรเท่ากับ 125.6 ลบ. -37.6%YoY สาเหตุจาก 1) ต้นทุนน้ำยาเคมีเพิ่มขึ้น 2) ค่าที่ปรึกษาโครงการโรงงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่น 3) ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
  • แนวโน้มปี 62 ผบห.ตั้งเป้ารายได้ราว 2,200 ลบ. หรือเติบโตราว 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุน 1) มีสินค้าใหม่ที่เป็น First Tier ผลิตให้กับกลุ่มลูกค้า TOYOTA ช่วยหนุนปริมาณขายปรับตัวขึ้น และ 2) ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในสายการผลิต Bumper ทดแทนเครื่องจักรเดิมจำนวน 3 เครื่อง ช่วยเพิ่มกำลังผลิต 17.7% และลดระยะเวลาการผลิตลง 5% และ 3) ราคาต้นทุนวัตถุดิบพลาสติก ABS และ PP ลดลงจากปี 61 ที่ 63 บาท/กก. และ 33 บาท/กก. สู่ 50 บาท/กก. และ 32.5 บาท/กก. ตามลำดับ คาดว่าจะช่วยหนุน %GPM ปรับตัวขึ้นเหนือ 20% จากปี 61 ที่ระดับ 18.95%
  • มุมมองบวก คาดว่าผลประกอบการปี 62 จะปรับตัวดีขึ้นจากฐานต่ำในปีที่ผ่านมา และจากปัจจัยสนับสนุนข้างต้น อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าเนื่องจากบริษัทมียอดขายต่างประเทศสูงถึง 85%

หุ้นมีข่าว   

·         - CHO แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาโครงการเช่าระบบบัตรโดยสายอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) จากขสมก. มูลค่าโครงการ 1,665 ล้านบาท โดยอ้างเหตุว่าบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาและส่งมอบงานได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้บริษัทได้ติดตั้งระบบบัตรโดยสาร E-Ticket ครบตามจำนวน 2,600 คัน ส่วนเครื่องเก็บเงิน Cash Box ได้ติดตั้งไปทั้งหมด 800 คัน (ที่มา SET NEWS)

·         + SCBแจ้งว่าได้ทำบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) เกี่ยวกับแผนความร่วมมือในธุรกิจประกันชีวิตกับบริษัท FWD Group Financial Services Pte.Ltd. ในการร่วมมือระยะยาวเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร (Bancassurance) ในประเทศไทย ทั้งนี้ แผนความร่วมมือดังกล่าวจะรวมถึงการที่เอฟดับบลิวดีจะเข้าซื้อหุ้น ซึ่งธนาคารถืออยู่ในบมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารด้านธุรกิจประกันชีวิต อย่างไรก็ดี การเข้าทำสัญญาดังกล่าวจะต้องได้รับอนุม้ติจากคณะกรรมการของแต่ละฝ่ายก่อน (ที่มา SET NEWS)

·         + PTT วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือ-สถานีรับจ่าย LNG หนองแฟบ รองรับการนำเข้า 7.5 ล้านตัน/ปี

·         + PTTEP เล็งทบทวนแผนงาน 5 ปีใหม่ ช่วงกลางปี หลังเข้าซื้อกิจการของ เมอร์ฟี่ มาเลเซีย ดัน EBITDA ปีนี้เพิ่ม 16% ปริมาณขายคาดอยู่ที่ 3.44 แสนบาร์เรลต่อวัน จะเพิ่ม 15-18% ใน 5 ปี เดินเกมต่อ เจรจาซื้อกิจการปิโตรเลียมในเวียดนามและบรูไนของเมอร์ฟี่ พฤษภาคมนี้ ชี้เงินสดในมือท่วม 4 พันล้านดอลลาร์ (ที่มาทันหุ้น)   

·         + SSP หลัง ADB-LEAP จรดปากกาเซ็นสัญญาปล่อยกู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 15 MW ในประเทศมองโกเลีย วงเงิน 18.7 ล้านดอลลาร์ โดย SSP เป็นผู้ถือหุ้น 75% ระบุถือเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มของภาคเอกชนรายแรกในประเทศมองโกเลียที่ ADB ให้ความสนับสนุนทางการเงิน SSP ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย (ที่มาทันหุ้น)   

·         + SKE ซุ่มดีล M&A โครงการโซลาร์รูฟท็อป ขนาดกำลังผลิตราว 10-20 เมกะวัตต์ โกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนปีนี้ส่วนโครงการชีวมวลแม่กระทิง 9.9 เมกะวัตต์ ดีเดย์ COD มิถุนายนนี้ แถมจ่อบุ๊กเงินสนับสนุนโครงการ CBG Station อีกราว 12 ล้านบาท คาดไตรมาส 2/2562 พร้อมปักเป้ารายได้ปี 2562 ทะยาน 40-50%(ที่มาทันหุ้น)

·         + BEM พร้อมเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก.ย.นี้ เชื่อมีผู้โดยสารทันที 1 แสนคน ช่วยดันยอดผู้โดยสารทั้งปี 62 ปิดที่ 4 แสนคน โต 6% และคาดรายได้พุ่งถึง 10% เหตุผู้โดยสารเดินทางไกลขึ้น ขณะที่ปี 63 ก้าวกระโดดรับผู้โดยสารพุ่ง 6 แสนคน จากการเปิดช่วงเตาปูน-ท่าพระ เดือนมี.ค.63(ที่มาข่าวหุ้น)

·         GPSC ลุยเทนเดอร์ฯ หุ้น GLOW ตั้งแต่ 25 มี.ค.-17 พ.ค. 2562 ในราคา 90.8136 บาท/หุ้น หลังหักเงินปันผล ส่วนที่เหลือในอัตรา 1.177 บาท/หุ้น จากเดิมที่ราคา 91.9906 บาท/หุ้น(ที่มาข่าวหุ้น)

·         MAKRO ตั้งบ.ย่อยแห่งใหม่ในจีน ทำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ถือหุ้นร้อยละ 100 มีทุนจดทะเบียนราว 71.13 ลบ.โดยใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (ที่มา : IQ)

·         TIGER ลงนามสัญญาก่อสร้างงานโครงการนิคมฯสะเดา จ.สงขลา มูลค่า 538.22 ลบ. (ที่มา : IQ)

·         + HMPRO (ราคาปิด 15.30 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 16.59) ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/2562 ปีนี้ โดดเด่นกว่าปีก่อน หลังโฮมโปรเอ็กซ์โป 2562 การตอบรับดี สะท้อนต่อกำลังซื้อฟื้นตัว คาดช่วยกระตุ้นยอดขายไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาสินค้ากลุ่มไพรเวตแบรนด์เพิ่มต่อเนื่อง รักษาอัตรากำไรขั้นต้นยืนเหนือ 30% มองยอดขายรวมทั้งปี 2562 โตไม่น้อยกว่า 4% (ที่มา ทันหุ้น)