'ไพบูลย์' ชี้การเมืองกดดันหุ้นไทยแกว่งตัว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ รายการห้องข่าวกรุงเทพธุรกิจ ช่องเนชั่น 22 เช้าวันนี้ว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาถือว่าผิดคาด ประการแรก การเมืองเหลือ 2 ทางเลือกเท่านั้น ไม่อึมครึมเหมือนที่กังวล
ประการที่ 2 พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนดิบมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นปัจจัยสร้างความชอบธรรมให้พรรคพลังประชารัฐ สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ที่ไม่ดีเท่าไหร่คือ คะแนนเสียง 2 ฝั่งที่สูสี ทำให้ไม่มีเสถียรภาพ แม้จะตั้งได้ ตลาดทุนมองว่า ไม่มีเสถียรภาพ

ส่วนตลาดหุ้นไทยที่ร่วงในเช้านี้ น่าจะเป็นปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นดาวโจนส์ที่ร่วงแรง ส่วนเช้านี้ตลาดไทยดีกว่าเพื่อนบ้าน หุ้นไทยลงน้อยที่สุด ซึ่งน่าจะมีเรื่องการเมืองมาช่วยพยุง เพราะคิดว่าถสถานการณ์ที่มองไว้ก่อนหน้า พรรคพลังประชารัฐ ไม่น่าจะได้เสียงมากขนาดนี้ เลยทำให้มีความชอบธรมมในการตั้งรัฐบาล

“ตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ได้ ถ้าพลังประชารัฐ เป็นแกนำตั้ง ข้อดีคือ ไม่ต้องรอ 60 วัน สมาชิกวุฒิสภาโหวตให้ใหม แต่ถ้าเพื่อไทย เป็นแกนนำก็จะลุ้นว่าส.ว.เลือกให้ใหม”

ส่วนเงินทุนจากต่างประเทศต้องได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เกิน 300 ขึ้นไป แต่วันนี้ดูแล้ว 260 อาจจะสร้างความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน

“ถ้ารัฐบาลเกิน 300 เสียง ผมเชื่อว่า เข้าแน่นอน และเข้ามากด้วยมากด้วย ถ้าไม่ถึงนี่ ก็ต้องดูนโยบายเศรษฐกิจ”
หุ้นไทยจากนี้ไปจะแกว่งตัว ต่างประเทศแค่ชั่วคราว คนกังวลเศรษฐกิจโลก แต่ขณะนี้ธนาคารกลางทั่วโลกพร้อมจะอัดฉีดเงิน ก็จะเป็นการเมือง ที่คนจะเกิดความไม่แน่ใจ”
ปชป ถ้าไม่ร่วมรัฐบาลก็ไปไม่ได้