'เซปิง' แจ้งความ 'พิธีกรดัง' ชี้หมิ่นเปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี

'เซปิง' แจ้งความ 'พิธีกรดัง' ชี้หมิ่นเปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี

"เซปิง เฟซออฟ" โร่พบตร. แจ้งความพิธีกรดัง-ผู้ร่วมรายการ-ทนาย รวม7คน พาดพิงเปลี่ยนหน้าคนเป็นหน้าผี ลั่นไม่เคยฉ้อโกงหลอกลวงใคร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มีนาคม น.ส.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟ พร้อมด้วยนายจำนงค์ ไชยมงคล ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ปรัชวีย์ ลิ้นฤาษี รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กับพิธีกรรายการชื่อดังรายหนึ่ง ผู้เข้าร่วมรายการ 5 คน และทนายความอีก 1 คน รวมทั้งหมด 7 คน หลังทั้งหมดบุคคลได้ไปออกรายการแล้วพาดพิงถึงโครงการเฟซออฟไปในทางที่ทำให้เสียหาย โดยมี พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พญาไท ร่วมรับฟังการสอบสวน

ดร.เซปิง กล่าวว่า รายการดังกล่าวมีการเชิญผู้เสียหายไปร่วมรายการดังกล่าว โดยไม่มีการสอบถามข้อมูลมาที่ตนเองหรือแม้แต่สืบหาข้อเท็จจริงก่อนไปนำไปออกอากาศเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวอ้างถึงว่ามีแพทย์รายหนึ่งในโครงการได้หลอกลวงคนไปทำศัลยกรรมกับโครงการเฟซออฟ เปลี่ยนจากหน้าคนเป็นหน้าผี ซึ่งผู้ร่วมรายการทั้งหมดอ้างว่า มีรอยแผลเป็นหลังจากการทำศัลยกรรม ซึ่งก่อนเข้าร่วมโครงการ ทางเราไม่เคยสัญญาว่าจะไม่มีรอยแผลเป็น หรือศัลยกรรมให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ลงแต่อย่างใด ซึ่งรอยบาดแผล หรือคีรอยด์ดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้เพราะไม่ดูแลตัวเองตามขั้นตอน ไม่ว่าจะอาหารการกิน และระเบียบวินัยการใช้ชีวิต ยกตัวอย่างเช่นตนเคยเห็นว่าผู้ร่วมโครงการบางรายโพสต์ภาพใช้ชีวิตดื่มสุรา กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ

“ยืนยันว่าไม่เคยฉ้อโกงและหลอกลวงใครทั้งสิ้น จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ได้ร่วมออกรายการทั้งหมด นอกจากนี้ผู้ร่วมออกรายการที่เข้าร่วมโครงการยังมีการค้างชำระค่าดำเนินการแก้ไขใบหน้าอีก 5 ราย” ดร.เซปิงกล่าว

ดร.เซปิง กล่าวต่อ โครงการเฟซออฟ ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ชื่อและเครื่องหมายการค้าอย่างถูกต้อง ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ได้มีผู้ติดต่อเข้ามายกเลิกไม่เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก รวมถึงต่อว่าด่าทอจนสร้างความเสียหายทางชื่อเสียงและตนเอง จนไม่สามารถตีเป็นราคาตัวเงินได้

ด้าน ร.ต.ท.ปรัชวีย์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะสอบปากคำ ดร.เซปิง พร้อมรวบรวมหลักฐานและดำเนินการเรียกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย มาสอบปากคำ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเรียกตัวเข้าพบเมื่อใด