กกต.ชวนจับโกงเลือกตั้ง เปลี่ยนเงินหลักพันเป็นเงินแสน

กกต.ชวนจับโกงเลือกตั้ง เปลี่ยนเงินหลักพันเป็นเงินแสน

สาธิตการใช้สิทธิ-นับคะแนน โชว์ระบบรายงานผลแรพพิทรีพอร์ต คาดรู้ผลหลังปิดหีบไม่เกิน 1 ชม. ผลสอบหยิบบัตรไปกาทั้งเล่มที่สุมทรสงครามไม่พบเป็นการทุจริต ชวนปชช.จับโกงเลือกตั้ง เปลี่ยนเงินซื้อเสียงหลักพันเป็นสินบนนำจับหลักแสน

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 21มี.ค.62 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. นำสื่อมวลชนเข้าตรวจความพร้อมของศูนย์อำนวยการและประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 5 ของสำนักงานกกต. พร้อมสาธิตการลงคะแนน การนับคะแนน การทักท้วงกรณีเห็นว่าการนับคะแนนไม่ถูกต้อง รวมทั้งทำความเข้าใจกรณีเมื่อกรรมการนับคะแนนเสร็จแล้วพบว่าจำนวนบัตรลงคะแนนกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกันจะไม่มีการนับคะแนนใหม่ แต่กรรมการประจำหน่วยจะทำรายงานเสนอขึ้นมาตามลำดับให้กกต.กลางพิจารณาวินิจฉัยว่าจะนับคะแนนใหม่ หรือจะสั่งลงคะแนนใหม่

เลขาธิกการ กกต.ยังแสดงระบบการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ หรือแรพพิทรีพอร์ท ของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 92,300 หน่วยเลือกตั้งจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการทดลองระบบแล้วและในวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ที่จะมีการแจกบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ก็จะให้แต่ละเขตรายงานเรื่องการรับบัตรเลือกตั้ง และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาเพื่อเช็คระบบครั้งสุดท้ายก่อนการที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. โดยกกต.มั่นใจว่าหลังปิดการลงคะแนนในวันที่ 24 มี.ค.แล้วการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยจะทราบผลอย่างไม่ทางการภายใน 1 ชั่วโมงหลังปิดหีบ นอกจากนี้ในศูนย์ดังกล่าวยังจะมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะคอยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพราะมีการรายงานสถานการณ์หรือแจ้งเหตุใด ๆ เข้ามาทางศูนย์ก็จะสามารถแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาได้ทันที

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงผลการตรวจสอบกรณีผู้ใช้สิทธิในจ.สมุทรสงครามนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปกากบาททั้งเล่มว่า การสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ้นจึงหยิบบัตรทั้ง 17 ใบไปกาเครื่องหมาย โดยที่บัตรเลือกตั้งทั้งหมดไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง ผู้กระทำความผิดจึงไม่น่าจะมีเจตนา และจากการประสานกับสภ.สุมทรสงครามก็ยืนยันในลักษณะเดียวกันว่าอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกัน แต่ก็ขอให้รอผลการสืบสวนที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 93 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความปรากฎโดยทางสำนักงานกกต.จังหวัดก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเมื่อแล้วเสร็จก็จะทยอยส่งมายังกกต.กลาง ซึ่งกกต.ก็จะพยายามพิจารณาเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนการประกาศผล

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวด้วยว่า กกต.จะไม่นำผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปคำนวนหาจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อแต่และพรรคควรได้แล้วมาเปิดเผยก่อน เพราะอาจจมีการเปลี่ยนแปลงหากกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ดังนั้นกกต.จะเปิดเผยจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคที่ควรได้ก็เมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ส่วนการจัดเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ไม่ห่วงว่าจะเกิดปัญหาเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.ที่ห่วงก็คือในวันดังกล่าวพรรคการเมืองอาจจะยังเข้าใจว่าสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่งจะผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งกำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น.ของวัน 23 มี.ค. เท่านั้น
"ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้มี สินบนรางวัลให้กับผู้ที่นำพยานหลักฐาน มายื่นให้กกต. เช่น สามารถเก็บหลักฐานถ่ายคลิปวิดีโอ หรือถ่ายภาพ ผู้ที่มาแจกเงินซื้อเสียง หรือทำทุจริตเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น มีการแจกเงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาท โดยหลักฐานนั้นสามารถนำไปสู่การที่กกต.ระงับสิทธิ์สมัคร ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ผู้ให้เบาะแสจะได้รับเงิน 1 แสนบาท เงินซื้อเสียง 1,000 บาทก็จะเปลี่ยนเป็น 100,000 บาทได้ และเป็นสินบนรางวัลนำจับที่ถูกต้องตามกฎหมาย" เลขาธิการกกต. กล่าว

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงมติของกกต.ที่มีการพิจารณาเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบด้วยกฎหมายนั้น ในส่วนของรายละเอียดตนยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะยังไม่เห็นมติ เนื่องจากเป็นการประชุมของกกต.