สิทธิเดช มัยลาภ ติดเขี้ยวเล็บ สกายไอซีทีชิงซิเคียวริตี้ ‘หมื่นล.’

สิทธิเดช มัยลาภ ติดเขี้ยวเล็บ สกายไอซีทีชิงซิเคียวริตี้ ‘หมื่นล.’

"เรากำลังพิจารณาการควบรวม และการซื้อกิจการ (M&A) ในบริษัทที่สามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจของสกายไอซีทีได้เช่น คลาวด์ เอไอ”

‘สกายไอซีที’ อัดกลยุทธ์ชิงแชร์ตลาด ‘สมาร์ทซิเคียวริตี้หมื่นล้าน’ หวังขึ้นเบอร์ 1 ผู้ให้บริการอีก 3 ปีข้างหน้า มองตลาดไอทีไทยปัจจัยบวกเพียบจากกระแส "ดิจิทัล ดิสรัป- 5จี-ก.ม.ไซเบอร์" ดึง ‘เอไอ-คลาวด์’ ปั้่นโซลูชั่นเจาะกลุ่มลูกค้ารัฐ เอกชน ลั่นรายได้ปี 2562 แตะ 3,000 ล้านบาท เผยตุุนแบ็คล็อกจากปี 61 กว่า 5 พันล้าน หวังโปรเจคใหญ่เอโอทีพัฒนา 'แอพใช้ในสนามบิน' ดันรายได้เติบโตก้าวกระโดดภายใน 3-5 ปี

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกายไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าปีนี้ตลาดไอทีภาพรวมในไทยยังเติบโตได้อีก เป็นไปตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมไปถึง 5จี กฏหมายไซเบอร์ฯ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวก และเป็นโอกาสของบริษัทในการต่อยอดธุรกิจ โดยจะเน้นทำตลาดใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.สมาร์ท ซิเคียวริตี้ 2.ดิจิทัล แพลตฟอร์ม และ 3.วิทยุสื่อสาร เจาะลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน

หวังเบอร์1ซิเคียวริตี้ โพรวายเดอร์

ในกลุ่มสมาร์ท ซิเคียวริตี้ เน้นโซลูชั่นติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะแบบครบวงจร ผนวกความอัจฉริยะด้านเอไอ (AI) ครอบคลุม 3 ส่วน ซีซีทีวี แอคเซส คอนโทรล ระบบจดจำใบหน้า (Face recognition) และ Fire alarm

"เรามีจุดแข็งที่ความเชี่ยวชาญ ติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมระบบการวิเคราะห์ตรวจสอบ มีฐานลูกค้าใหญ่ๆ เช่น บริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ เอโอที ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ ทั้งหมดเราติดตั้งกล้องวงจรปิดรวมแล้วกว่า 7,000 กล้อง และจุดสำคัญจะใช้ระบบจดจำใบหน้า มูลค่าโครงการ1,400 ล้านบาทส่งมอบเรียบร้อย เรายังมีแผนประมูลต่อเนื่องรองรับสนามบินใหม่ เทอร์นินัลใหม่ในอนาคตด้วย นอกจากนี้ เรายังเข้าไปติดตั้งกล้องในกรมศุลกากรทั่วประเทศมากกว่า 2,200 กล้อง และปีนี้ อยู่ระหว่างการประมูลงานติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับกรุงเทพมหานครด้วย"

ปัจจุบันตลาดกล้องวงจรปิด และภาพรวมของซิเคียวริตี้ในไทยเติบโตเพิ่มขึ้นมาก ปีนี้จะเน้นหนักภาคเอกชน นำเสนอโซลูชั่นครบวงจร เจาะอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ชอปปิง เซ็นเตอร์ กลุ่มโรงงาน โรงเรียน รวมถึงค้าปลีก

“เราพร้อมทำตลาดภาคเอกชนมาก อยากผันตัวเองจากการเป็น Project base ไปสู่ Service base แต่ไม่ทิ้งภาครัฐเพราะเป็นกลุ่มที่เรามีประสบการณ์ มีโนฮาว พร้อมสานต่อได้ทันที ผมประเมินว่า ตลาดซิเคียวริตี้ในภาคเอกชนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท"

ทั้งนี้ บริษัทเป็นวีไอพีพาร์ทเนอร์กับบริษัทหัวเว่ย ซึ่งมีฮาร์ดแวร์ที่ตอบโจทย์โซลูชั่นด้านซิเคียวริตี้ในระดับโลก โดยปี 2561 บริษัทสกายไอซีที เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่สร้างรายได้ให้กับหัวเว่ยมากที่สุดราว 60 ล้านดอลลาร์

นายสิทธิเดช กล่าวด้วยว่า บริษัทตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ผู้ให้บริการโซลูชั่น ซิเคียวริตี้ไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า

รวบ 2 โครงการใหญ่เอโอที

ขณะที่ กลุ่มธุรกิจ 'ดิจิทัล แพลตฟอร์ม' บริษัทชนะประมูล 2 โครงการของเอโอทีด้วยสัญญา 10 ปี คือ การให้บริการฟรีไวไฟภายในสนามบินทั้งหมด 6 แห่ง ที่เตรียมเปิดให้บริการช่วงสงกรานต์ปีนี้ และพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น ให้บริการผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการภายในสนามบิน โดยจะเปิดตัวแบบคอมเมอร์เชียลเดือน ก.ค. ปีนี้เช่นกัน

นายสิทธิเดช กล่าวว่า โอกาสเติบโตของโมบายแอพมีสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักเดินทาง ท่องเที่ยว ปีที่ผ่านมาสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสารเข้า-ออกมากกว่า 60 ล้านคน ขณะที่ดอนเมืองมีราว 40 ล้านคน ยังไม่นับอีกหลายๆ สนามบินในประเทศ

“กลุ่มเป้าหมายเรามีมากกว่า 100 ล้านคน คนเหล่านี้มี Spending แน่นอน ขอแค่สัก 1% ของผู้โดยสารทั้งหมดมาใช้แอพเราภายในสิ้นปีนี้ ”

ด้านกลุ่มวิทยุสื่อสาร ที่ผ่านมาบริษัทชนะประมูลโครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลระยะที่ 2 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มูลค่าโครงการ4,340 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 580 วัน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา บริษัทมีแผนเพิ่มสถานีฐานไปตามต่างจังหวัด เมืองใหญ่แหล่งท่องเที่ยวเพิ่ม โดยพร้อมเข้าประมูลวิทยุสื่อสารในหน่วยงานความมั่นคงเพิ่มเติมในอนาคตด้วย

นอกจากธุรกิจปกติแล้ว บริษัทยังมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแผนเข้าลงทุนเพิ่มเติม

“ปีนี้เรามีแผนที่จะพิจารณาการควบรวม และซื้อกิจการ (M&A) ในบริษัทที่สามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจของสกายไอซีทีได้ เช่น คลาวด์ เอไอ” นายสิทธิเดช กล่าว

แบ็คล็อกพุ่ง 5,000 ล้านบาท

สำหรับโครงสร้างรายได้บริษัทปี 2562 คาดว่า รายได้จากธุรกิจ 3 กลุ่มจะมีรายได้อยู่ในหลักพันล้านบาท ไม่รวมกับการเติบโตของบริษัท ทั้งนี้บริษัทมีแบ็คล็อกเมื่อปี 2561 ราว 5,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ปีนี้ 2,900-3,000 ล้านบาท

"ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ 3,000 ล้านบาท ผมมั่นใจว่าใน 3-5 ปี รายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากทั้ง 3 ธุรกิจที่กำลังทยอยรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น"