ประธานเฟดมองศก.สหรัฐยังไหว-ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

ประธานเฟดมองศก.สหรัฐยังไหว-ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

"เราคิดว่าการปรับงบดุลสู่ระดับปกติจะใช้เวลาในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเราไม่คิดว่านั่นเป็นเครื่องมือ 2 ชนิดที่แตกต่างกันในการกำหนดนโยบายการเงิน"นายพาวเวล กล่าว

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ว่า เขาและเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ เชื่อว่า เฟดควรจะอดทนในการประเมินความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งความอดทนหมายถึง เฟดไม่จำเป็นจะต้องเร่งรีบในการตัดสินใจ โดยอาจจะต้องใช้เวลารอดูความชัดเจนของแนวโน้มด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบาย

นายพาวเวล ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ภาวะโดยรวมยังคงน่าพอใจในปีนี้ พร้อมเสริมว่า กรรมการเอฟโอเอ็ทซีคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะขยายตัวราว 2% ขณะที่อัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ต่ำกว่า 4% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานซึ่งมีผันผวนนั้น ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 2%

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่นั้น นายพาวเวลตอบว่า ข้อมูลที่เฟดพิจารณายังไม่ได้ส่งสัญญาณในขณะนี้ว่า เฟดจำเป็นจะต้องดำเนินการในทิศทางใด โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปในเชิงบวก

นายพาวเวล กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจโลกที่ชะลอการขยายตัว ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) และการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

นอกจากนี้ เฟดจะชะลอการปรับลดงบดุลในเดือนพ.ค. จากระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะยุติการปรับลดงบดุลในเดือนก.ย.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มูลค่าพอร์ตสินทรัพย์ของเฟดซึ่งเป็นผลจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณหลังวิกฤตการเงินปี 2551 นั้น อยู่ที่ระดับประมาณ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเฟดเริ่มปรับลดงบดุลลงอย่างต่อเนื่องเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

นายพาวเวล กล่าวว่า งบดุลบัญชีจะมีขนาดประมาณ 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ราวสิ้นปีนี้ ลดลงจาก 25% ของจีดีพี ณ สิ้นปี 2557 โดยมีมูลค่าสูงกว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์เล็กน้อย และเฟดไม่ได้ถือว่าโครงการปรับงบดุลบัญชีให้ปกตินั้น เป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายการเงิน และเฟดยังคงคิดว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการกำหนดนโยบาย