บางจากฯ ลุ้นค่าการกลั่นไตรมาส 1 ปีนี้ อยู่ที่ 5.9 ดอลลาร์/บาร์เรล

บางจากฯ ลุ้นค่าการกลั่นไตรมาส 1 ปีนี้ อยู่ที่ 5.9 ดอลลาร์/บาร์เรล

บางจากฯ ลุ้นค่าการกลั่นไตรมาส 1 ปีนี้ อยู่ที่ 5.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงไตรมาส4 ที่ผ่านมา หลังส่วนต่างน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบ มี.ค.เริ่มดีขึ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบปัจจุบันที่ยังทรงตัวในระดับ 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากสต็อกน้ำมันเหมือนในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันและสินค้าคงเหลือรวม 2.5 พันล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทั้งปีนี้น่าจะทรงตัวในระดับดังกล่าว

ส่วนยอดขายน้ำมันรวมของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขยายตัวมากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโตราว 2.5% ส่วนทิศทางในไตรมาส 2 คาดว่า ตลาดอาจจะดีขึ้นหลังการเลือกตั้งที่อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันกลับมาเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่อาจจะฟื้นตัว

ขณะที่การใช้กำลังการกลั่นของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ราว 1.1 แสนบาร์เรลต่อวัน และค่าการกลั่น (GRM) ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ที่มีการใช้กำลังการกลั่น 1.14 แสนบาร์เรลต่อวัน และ GRM อยู่ที่ 5.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นในช่วงต้นไตรมาส 1 ยังคงได้รับผลกระทบจากส่วนต่าง (สเปรด) น้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบที่ลดลงมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่อยู่ราว 2-3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินชะลอตัว โดยช่วงไตรมาส 4ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์นั่งในจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดในโลกหดตัวครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยลดลง 10% และยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องในไตรมาส 1ปีนี้ ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นเท่าตัว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น หลังได้หยุดซ่อมบำรุงใหญ่ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทก็มีความพร้อมรับมาตรการขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่มีมติให้จำกัดกำมะถันในน้ำมันเตาของเรือเดินสมุทรไม่เกิน 0.5% จากระดับ 3.5% ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ปี 2563 โดยปัจจุบันบริษัทสามารถกลั่นน้ำมันเตาที่มีกำมะถันต่ำระดับ 0.2-0.3% อยู่แล้ว