กกต.ถกตร. ย้ำไม่ฟ้องคนวิจารณ์ ให้ระวังโพสต์บิดเบือน

กกต.ถกตร. ย้ำไม่ฟ้องคนวิจารณ์ ให้ระวังโพสต์บิดเบือน

"เลขาธิการ กกต." ร่วมถก "รองผบ.ตร." ย้ำไม่ฟ้องกลับคนวิจารณ์ แต่ให้ระวังโพสต์บิดเบือน ย้ำการข่าวยังไม่พบการเคลื่อนไหวผิดปกติ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 20 มีนาม 2562 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (เลขาธิการ กกต.) ร่วมประชุมสัมมนาบทบาทของข้าราชการตำรวจในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีหัวหน้าศูนย์รักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยการเลือกตั้ง จากทั่วประเทศ 255 คน เข้าร่วม

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากตำรวจเป็นอย่างดี ในการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยวันนี้ จะมีการเน้นย้ำการปฏิบัติงานของตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการรักษาความปลอดภัย และการรับแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีการฟ้องดำเนินคดีอาญากับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ กกต. เพียงแต่ขอให้ระมัดระวังการโพสต์ข้อมูลใด ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งขอให้เป็นข้อเท็จจริง ไม่มีการใส่ร้าย หรือบิดเบือนข้อมูล แต่ยอมรับข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ กกต. ประจำหน่วย ที่เกิดขึ้นในวันการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งการแจกบัตรลงคะแนนผิด และอื่น ๆ ซึ่งจะต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น จะทำให้การเลือกตั้งสมบูรณ์หรือไม่

กกต.ถกตร. ย้ำไม่ฟ้องคนวิจารณ์ ให้ระวังโพสต์บิดเบือน

เลขาธิการ กกต. กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับเอกสารของทหารหน่วยหนึ่ง ซึ่งในสังคมโซเชียลมีการระบุว่า ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง โดยเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเชื่อว่า ทางกองทัพ ก็ต้องตรวจสอบเช่นกัน เนื่องจากตามมติคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐฯ ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ส่วนข้อร้องเรียนต่าง ๆ เช่น กรณีแม่ค้าในจังหวัดสมุทรสาคร กาบัตรลงคะแนนถึง 17 ใบ และการร้องเรียนทุจริตใน 3 จังหวัด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่หากประชาชนมีหลักฐาน ก็ขอให้เก็บหลักฐานและเข้าร้อง กกต. ได้ทันที

ทางด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ตำรวจทุกหน่วยเฝ้าระวังการซื้อสิทธิขายเสียง การใส่ร้ายผู้อื่น และแจ้งความเท็จจริง เนื่องจาก เป็นคดีอาญา แต่ในส่วนของตำรวจยังไม่ได้รับแจ้ง พร้อมสั่งเพิ่มกำลังตำรวจทั่วประเทศ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จากการข่าวยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติแต่อย่างใด