“แสนสิริ” รุกแนวราบ 2.4 หมื่นล.รับดีมานด์ยังโต
‘แสนสิริ’ รุก16โครงการแนวราบปี62มูลค่ารวมกว่า 24,200 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย14,400 ล้านบาท นำร่องโครงการแรก “เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา” มูลค่ากว่า 2,000 ล้าน ย่านทวีวัฒนาเหตุดีมานด์สูง รับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โดยเฉพาะย่านทวีวัฒนาเพื่อรองรับกับทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำหนดเปิดใช้งานในปี 2562 และสายสีแดงอ่อนซึ่งกำหนดเปิดใช้งานในปี 2565 ขณะเดียวกันโลเคชั่นไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล พุทธมณฑล เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการบ้านเดี่ยวระดับราคา 10.00 – 19.99 ล้านบาทในย่านทวีวัฒนาที่มียอดขายได้เฉลี่ยรวมถึง 84% ขณะที่ปัจจุบันจำนวนยูนิตขายในตลาดน้อยลง จึงเป็นโอกาสของ ‘เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา’ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป ในระดับราคา15-20 ล้านบาท ที่มีจำนวน 133 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูลในปี 2561 พบว่า ตลาดบ้านเดี่ยว ย่านทวีวัฒนามีดีมานด์สูง โดยเฉพาะในเซกเมนต์ราคา 3-4.99ล้านบาท มีจำนวน25,879ยูนิต ขายออกไปแล้ว 83% ซัพพลายที่เหลือจะหมดภายใน 6เดือน ส่วนเซกเมนต์ราคา5-4.99ล้านบาทมีจำนวน 19,431ยูนิต ขายออกไปแล้ว 84% ซัพพลายที่เหลือจะหมดภายใน 7.8 เดือน และในเซกเมนต์ราคา10-19.99ล้านบาทมีจำนวน 5,577 ยูนิต ขายออกไปแล้ว 84% ซัพพลายที่เหลือจะหมดภายใน 7.5 เดือน จึงเป็น 3 เซกเมนต์ที่แสนสิริให้ความสนใจที่จะลงทุน ขยายโครงการภายแบรนด์ คณาสิริ ปิ่นเกล้า กาญจนาฯ2 บนพื้นที่ 50 ไร่ภายในปีนี้
“หลังจากเปิดขายโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนาเฟสแรก ได้รับการตอบรับที่ดีโดยมียอดขายไปแล้ว 12 ยูนิตภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนซึ่งนับเป็นการตอบรับที่ดีในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 15 – 20 ล้านบาท ที่ทำออกมาเป็นรายแรก คาดว่า ภายในสิ้นปีขายได้ 30-40 ยูนิต”นายสมเกียรติ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดการขายโครงการทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ สิริ เพลสที่ ภูเก็ต ในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ โดยภาพรวมของปีนี้จะรุกโครงการแนบราบเพิ่มขึ้น หลังจากผลประกอบการในปี2561ที่ผ่านมา สามารถทำได้ 48,500 ล้านบาทสูงที่สุดในรอบ 34 ปี โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบที่เปิดตัวมียอดขาย 18,800 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 40% โดยทาวน์เฮาส์ที่เติบโตขึ้นถึง 75% รวมถึงบ้านเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในทุกแบรนด์และเติบโตขึ้น 35% ทุกโครงการ