ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังโอเปกเลื่อนประชุม

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังโอเปกเลื่อนประชุม

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร (19มี.ค.)ปรับตัวร่วงลงหลังทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันที่ 59.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับราคาสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.ปีที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ปรับตัวลง 6เซนต์ ปิดที่ 59.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 7เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน กลุ่มโอเปกประกาศยกเลิกการประชุมในเดือนหน้า แต่จะยังคงมีการประชุมในเดือนมิ.ย. ซึ่งการยกเลิกการประชุมดังกล่าวในวันที่ 17-18 เม.ย. จะทำให้โอเปกและประเทศพันธมิตรยังคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปจนกว่าจะถึงการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 25-26 มิ.ย.

นายอัล-ฟาลีห์ กล่าวว่า การที่โอเปกยกเลิกการประชุมในเดือนหน้า เนื่องจากคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และการเลื่อนการประชุมดังกล่าวจะทำให้ผู้ผลิตน้ำมันสามารถประเมินผลกระทบจากการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงมีความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัว 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.15 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า

นอกจากนี้ คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ และเวสต์เท็กซัสจะมีค่าเฉลี่ยที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล และ 59 ดอลลาร์/บาร์เรลตามลำดับในปีนี้ และ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล และ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลตามลำดับในปีหน้า