หวั่นเจรจาการค้าไม่คืบฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หวั่นเจรจาการค้าไม่คืบฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (19มี.ค.)ปรับตัวลง เพราะถูกกดดันจากหุ้นแอ๊ปเปิ้ลที่ปรับตัวลง และความกังวลของบรรดานักลงทุนที่เริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 26.72 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 25,887.38 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ปรับตัวลง 0.37 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 2,832.57  จุด และดัชนีแนสแด็กบวก  9.47 จุดหรือ 0.12% ปิดที่ 7,723.95 จุด

ทั้งนี้  ดาวโจนส์เริ่มปรับตัวลงหลังจากบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลสหรัฐกังวลว่าจีนอาจจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเจรจาการค้าร่วมกัน โดยเฉพาะคณะผู้แทนเจรจาการค้าของจีน ที่อาจไม่มั่นใจว่าสหรัฐจะยกเลิกไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทันทีที่ทั้ง2ฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าร่วมกัน

ขณะที่ผลสำรวจของซีเอ็นบีซี เฟด เซอร์เวย์ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้และปีหน้า โดยได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 2.3% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.44% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. หลังจากขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตต่ำกว่า 2% ในปีหน้า และคาดการณ์ว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงภายในปีนี้ และผู้ถูกสำรวจจำนวน 60% คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ 14% คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง

ผลสำรวจดังกล่าวสวนทางกับที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงทศวรรษหน้า โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปรับลดอัตราภาษี  การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในสัปดาห์นี้ แต่นักลงทุนก็รอการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จากการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดครั้งนี้