ปัจจัยภายนอกเป็นบวก แต่ความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้งทำให้บรรยากาศลงทุนชะลอ

ปัจจัยภายนอกเป็นบวก แต่ความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้งทำให้บรรยากาศลงทุนชะลอ

สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมเฟดและกนง. และผู้นำยุโรป

ภาพของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการปรับประมาณการกำไรลงเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้แล้ว แต่ภาวะที่จะช่วยประคองภาพการลงทุนให้เหมือนช่วงต้นปี 2559 ที่หุ้นขึ้นทั้งที่กำไรบจ.ลง คือสภาพคล่องของโลก ที่มาจากนโยบายการเงินที่ผ่อนจากธนาคารกลางหลักของโลก คาดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของทั้งสหรัฐฯ และไทยในวันพุธ 20 มี.ค. ที่น่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อเนื่อง ขณะที่วันพฤหัสฯ 21 มี.ค. ติดตามการประชุมผู้นำยุโรปที่คาดว่าจะลงมติขยายเวลา Brexit ทำให้ความกังวลระยะสั้นคลายลง

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบเริ่มมีสัญญาณบวก แม้ข้อสรุปสงครามการค้าจะเลื่อนจากช่วงปลายมี.ค. ที่การส่งสัญญาณจากผู้เกี่ยวข้องทั้งจีนละสหรัฐฯ มีความสอดคล้องในเชิงบวกต่อเนื่อง ดังนั้นถึงแม้ข้อสรุปดังกล่าวจะเลื่อนออกไป แต่เราคาดผลสรุปที่เป็นบวกจะไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่มีเซอร์ไพรซ์ในทางลบ ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มตอบรับเชิงบวก ขณะที่น้ำมันดิบยังได้อานิสงค์จากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ที่ลดลง

นักลงทุนชะลอ จากความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้ง กระแสตื่นตัวต่อการเลือกตั้งอยู่ในระดับสูงทั้งจากการเลือกตั้งล่วงหน้านอกประเทศ และการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ 18 มี.ค.ที่ผู้มาใช้สิทธิ์เกิน 75% อย่างไรก็ตามโพลของสื่อและพรรคการเมืองต่างๆ ที่ประเมินความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ อาจมีคะแนนเสียงใกล้เคียง 250 ที่นั่ง แม้ยังไม่พอต่อการรับรองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการ 376 เสียง แต่จะก่อปัญหาเรื่องความชอบธรรมในการเสนอชื่อนายกฯ และสร้างความกังวลรัฐบาลหลังการเลือกตั้งอาจไม่มีเสถียรภาพ

แกว่งตัว 1,610-1,640 จุด เลือกเก็งกำไรรายตัว เรายังคงยืนยันภาพการลงทุนโดยรวมมีโอกาสดีขึ้นช่วงปลายเดือน หุ้นขนาดกลางที่มีการถือครองน้อยมีโอกาสถูกเก็งกำไรโดดเด่น นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นใหญ่เมื่ออ่อนตัวโดยเรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH

ภาพรวมกลยุทธ์: ประเมิน downside ของ SET Index จำกัดที่ 1610-1625 จุด โดยเฉพาะ 1,610 เป็นจุดเสี่ยงซื้อที่ดีหากมีการปรับลงแรง // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, TU, GUNKUL* (เป้า 3.30 ตัดขาดทุน 3.00)

แนวรับ 1610-1625 / แนวต้าน : 1640, 1660 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ความคืบหน้าทางการค้า – ปธน.ทรัมป์ เผยว่า สหรัฐฯจะทราบความเป็นไปได้เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงกับทางจีน ภายใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า

จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ – นายกฯจีนส่งสัญญาณเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องหลังตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของข้อพิพาททางการค้า

BOJ คงดอกเบี้ยตามคาด – ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ตามคาด พร้อมปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับการส่งออก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

AOT –รมว.คมนาคม สั่ง AOT ชะลอการเปิดประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน รวมถึง พื้นที่เชิงพาณิชย์ในสุวรรณภูมิ ขณะที่นายนิตินัย ยืนยันเดินหน้าเปิดประมูล เบื้องต้นคาดอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น

หุ้นที่มีการถือครองต่ำ – สามารถเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน MCOT, SAWAD, SAPPE, JMART, SAMART, SINGER, NER, III, PRM, JMT

ประเด็นติดตาม: 20 มี.ค. – ประชุม กนง. (ปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทย) / 21 มี.ค. – BOE meeting / 21 มี.ค. – ผู้นำยุโรปลงมติขยายเวลา Brexit ให้อังกฤษ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)