'ประวิตร' ย้ำฝ่ายความมั่นคง เข้มกวาดยาเสพติดออกจากชุมชน

'ประวิตร' ย้ำฝ่ายความมั่นคง เข้มกวาดยาเสพติดออกจากชุมชน

"พล.อ.ประวิตร" ย้ำฝ่ายความมั่นคง เข้มกวาดยาเสพติดออกจากชุมชนและกันไม่ให้เข้าเพิ่ม ควบคู่กับสร้างภูมิคุ้มกันสังคม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้กล่าวแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ป.ป.ส.และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างจริงจังในการป้องกันและเปิดปฏิบัติการกวาดล้างทำลายเครือข่ายยาเสพติดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างจริงจัง ตามนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา

หลังจากรับทราบรายงานสถานการณ์ยาเสพติดในภาพรวม ตั้งแต่ พ.ย.61 ถึง ปัจจุบันว่า สังคมมีความตระหนักและตื่นตัวต่อปัญหายาเสพติดและผลกระทบที่ตามมามากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากภาคประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการร่วมเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส เป็นผลให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติการเชิงรุกดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องและเครือข่ายแล้ว กว่า 162,000 ราย ยึดของกลางยาเสพติดได้จำนวนมาก เป็นยาบ้ากว่า 313 ล้านเม็ด , ยาไอซ์ 4,680 กก. ,ยาอี 48,745 กก. , เฮโรอีน 448 กก., กระท่อมและนำ้กระท่อมเกือบ 77,000 กก., กัญชาแห้ง 9,250 กก. โดยอายัดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้อง 960 ราย มูลค่ากว่า 517 ล้านบาท นำผู้เสพทั่วประเทศออกมาบำบัดรักษาแล้วกว่า 70,000 ราย ซึ่งการกวาดล้างเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ชุมชนเมืองที่ผ่านมา มีผลต่อการลดปัญหาอาชญกรรมลูกโซ่ที่เกี่ยวเนื่องกันทุกพื้นที่ในภาพรวม.

พล.อ.ประวิตร’ ได้กำชับหน่วยงานความมั่นคง ขอให้กองกำลังป้องกันชายแดนคงเข้มสกัดกั้นและหยุดยั้งสารตั้งต้นและยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน โดยต้องทำลายเครือข่ายขบวนการผลิตและลำเลียงไม่ให้เข้ามาเพิ่ม ขณะเดียวกันในพื้นที่ชุมชนและเขตเมือง ให้คงเข้มเปิดปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่องกันไป โดยสานต่อและขยายเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาชนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ในการมีส่วนร่วมกันป้องกัน เฝ้าระวังและร่วมกวาดล้างยาเสพติดออกจากแต่ละพื้นที่ชุมชนเมืองซึ่งใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงเด็กและเยาวชน


พร้อมย้ำ ขอให้ตำรวจ กวดขันและคงเข้มทั้งมาตรการทางสังคมและมาตรการทางกฎหมายในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะสถานบันเทิง สถานบริการ และโรงงานอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ สำหรับสถานศึกษาที่อยู่ระหว่างปิดการศึกษา ขอให้ประสานจัดให้มีแผนป้องกัน เฝ้าระวังยาเสพติดให้ครอบคลุมทั้งในสถานศึกษาและพื้นที่โดยรอบก่อนเปิดเทอม พร้อมกันนี้ ขอให้ร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันกับสังคมควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง