แรงเทขายทำกำไรฉุดราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง

แรงเทขายทำกำไรฉุดราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (15มี.ค.)ปรับตัวลงจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ราคา 58.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 23 เซนต์ ปิดที่ราคา 67 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นราว 25% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ และถึงแม้ราคาน้ำมันปรับตัวลงในวันนี้ แต่ก็ยังได้แรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และการที่สหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบ และการผลิตน้ำมันของสหรัฐ

โอเปก ออกรายงานคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันอยู่ที่ระดับ 30.46 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยลดลง 130,000 บาร์เรล/วันจากที่มีการคาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว และต่ำกว่าระดับการผลิตของโอเปกในปัจจุบัน

“ขณะที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวในระดับปานกลางในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศนอกโอเปก จึงทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงต้องให้ความร่วมมือกันต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไร้สมดุล และสนับสนุนเสถียรภาพของตลาดน้ำมันในปีนี้” รายงานระบุ

โอเปก รายงานด้วยว่า การผลิตน้ำมันลดลง 221,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. ซึ่งหมายความว่าสมาชิกโอเปกให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตสูงถึง 105%

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกมีแนวโน้มขยายช่วงเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรมีกำหนดจัดการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 17-18 เม.ย. และ 25-26 มิ.ย.นี้ 

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล