สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 11-15 มีนาคม 2562

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 11-15 มีนาคม 2562

เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยลดลงจากระดับปิดของสัปดาห์ก่อน

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากอัตราเงินเฟ้อ (ที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิต) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดในเดือนก.พ. ซึ่งตอกย้ำแนวโน้มการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันจากสถานะขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติและปัจจัยในประเทศ ก่อนจะมีแรงหนุนให้ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ ตลาดรอติดตามผลการประชุมเฟดวันที่ 19-20 มี.ค. นี้

- ในวันศุกร์ (15 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 31.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 มี.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (20 มี.ค.) ตัวเลขการส่งออกเดือนก.พ. ของไทย กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ และปัจจัยการเมืองในประเทศ ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ท่าทีนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จากผลการประชุม FOMC รวมถึงตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ และ Dot Plot ชุดใหม่ของเฟด (19-20 มี.ค.) การพิจารณาข้อตกลง BREXIT ที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะเสนอต่อรัฐสภา ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค.

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลงเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,625.57 จุด ลดลง 0.28% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 0.94% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 40,324.06 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 1.52% มาปิดที่ 365.55 จุด

  • ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มบริการ และกลุ่มเทคโนโลยี หลัง FTSE ประกาศจะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ร่วงลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ จากความกังวลเกี่ยวกับ ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์ BREXIT รวมถึงปัจจัยในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (19-20 มี.ค.)การประชุมนโยบายการเงินของกนง. (20 มี.ค.) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์ Brexit รวมถึงปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. รวมถึงผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิต (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ