รังสิตโพลวิเคราะห์ 'ประยุทธ์' โอกาสสูงนั่งนายกฯ ส่วนพท.นำฝ่ายค้าน

รังสิตโพลวิเคราะห์ 'ประยุทธ์' โอกาสสูงนั่งนายกฯ ส่วนพท.นำฝ่ายค้าน

วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต เผยโพลล่าสุด "พล.อ.ประยุทธ์" คะแนนนิยมอันดับ 1 มีโอกาสสูงนั่งนายกฯ ส่วน"อภิสิทธิ์-สุดารัตน์"ชิงอันดับ 2 ชี้เพื่อไทยกวาดส.ส.มากสุด 128 ที่นั่ง แต่ไม่ได้ส.ส.บัญชีฯแม้แต่คนเดียว "อนาคตใหม่" จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมากสุด

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลังรังสิต เปิดเผยผลสำรวจและวิเคราะห์ผลสำรวจรังสิตโพล ทั้งหมด6ครั้ง ตั้งแต่1พค.-5มีนาคม 2562 ตามหลักวิชาการ ตามโครงสร้างประชากร ของสำนักงานสถิติเเห่งชาติ สำรวจ 8,000 ตัวอย่าง ซึ่งความเชื่อมั่น 83 % โอกาสคลาดเคลื่อน 7% ทำโพล 350 เขตทั่วกระเทศ รังสิตโพลแตกต่างจากโพลอื่น คือ จำแนกความความนิยมของแต่ละพรรคด้วย โพลเดียวที่คะแนนรวมแต่ละพรรค หรือ ป็อบปูลาโหวตจำนวนกี่คน

1_152

คะแนนิยมอยู่ในระดับสูงที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 29.34% ตามด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 14.63% นายอภิสิทธิ์ 17.67 % พิจารณา 6 ครั้ง ประระยุทธ์นำตลอด มีเสถียรภาพ ตามมาสุดารัตน์ แต่นายอภิสิทธิ์กลับมานำในช่วง 2เดือนหลังก่อน 5 มีนาคม ที่น่าสนใจอีกคือ นายอนุทิน ชาญวีรกุล กับ นายธนาธร จึวรุ่งเรื่อวกิน ที่กลับมานำนายธนาธร แต่ในทางสถิติเท่ากัน

สำหรับผลสำรวจคะแนนความนิยมของพรรคการเมืองที่จะกวาด ส.ส.เขต พรรคเพื่อไทยจะเป็นอันดับ1 กว่า 5.8 ล้านเสียง ได้ส.ส.เขต 128ที่นั่ง ตามด้วยพลังประชารัฐ 7.8 ล้านเสียง 100 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 6.6 ล้านเสียง 86 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 3.3 ล้านเสียง 38 ที่นั่ง อนาคตใหม่ 2.9 ล้านเสียง 30 ที่นั่ง เสรีรวมไทย 2.5 ล้านเสียง 25 ที่นั่ง

ผลการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม เพราะตั้งแต่การสำรวจหลัง 5 มีนาคมถึง 24 มีนาคม มียังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงมาก ยังบอกไม่ได้ว่าใครแพ้ชนะ บอกได้เพียงใครนำ

2_226

คนที่มีนิยมเป็นอันดับ 1 ใน 320 เขต คนที่มีคะแนนนำที่ชนะกันไม่เกิน 3300 คะแนน มีโอกาสพลิกแพ้ชนะกัน มีสำรวจที่นำทิ้งห่างเกิน 15,000 คะแนน ชนะแน่ๆ ไม่เกิน 20 เขต จาก 350 เขต

จากการสำรวจคะแนนนรวมแต่ละพรรค พลังประชารัฐมีโอกาสที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล และมีโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ แม้ได้ส.ส.เขตมาก แต่โอกาสที่จะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว

รศ.ดร.สังศิต วิเคราะห์ พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสสูง เป็นนายกฯ ส่วนเพื่อไทยจะไม่ได้สส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว เช่นเดียวกับประชาธิปัตย์ก็อาจจะไม่ได้บัญชีรายชื่อเเม้แต่คนเดียว

เหตุผลที่พลังประชารัฐ จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมเนื่องจาก 10 วันสุดท้ายมีโอกาสที่พลังประชารัฐ จะมีความได้เปรียบกว่าทุกพรรค รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง แกนนำรัฐบาลคือพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาลผสม 280-300 เสียง ส่วนเพื่อไทยและพันธมิตร จะได้เป็นฝ่ายค้าน 180-190 เสียง พรรคขนาดกลางจะได้ประโยชน์ อนาคตใหม่ ได้ส.ส.รายชื่อมากที่สุด 25 ที่นั่ง ในการคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้วางกรอบไว้ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ รัฐบาลจะมีเสถียรภาพพอประมาณ ส่วนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น นักลงทุนมีความเชื่อมั่น สามารถเดินหน้าต่อไปได้

3_165

คะะแนนมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้อีก ตั้งแต่ 5 มีนาคมถึง 23 มีนาคม เพราะหลังจากท่าทีของนายอภิสิทธ์เป็นทางเลือก ไม่เอาเพื่อไทย ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ แต่เอาพลังประชารัฐ ทำให้ในภาคอีสานคะแนนดีขึ้น แต่ในพื้นที่ภาคใต้ กทม. คะแนนลดลง หันไปเลือกประชารัฐและพรรคของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เช่นเดียวกับนายธนาธร ที่จะรื้อคดีนายทักษิณ ชินวัตร จะทำให้คนนิยมเสื้อสีจะหันมาหนุนนายธนาธรเพิ่มมากขึ้น ส่วนคนที่หนุนคนชั้นกลางก็อาจจะกำลังพบการเผชิญหน้าครั้งใหม่ จะหันไปเลือกพลังประชารัฐแทน

การปรับท่าที การปรับบุคลิกนิ่มนวลของนายกพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้คะแนนบวกดีขึ้น ประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีคนมจะออกไปเลือกตั้งเกิน 80% อยู่ ที่ 75-80 % จากกว่า 51 ล้าน อยู่ที่ประมาณ 38-41 ล้านคน