วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 มี.ค.62)

+/- ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังกลุ่มโอเปคได้ปรับลดอุปสงค์น้ำมันดิบของโอเปคในปี 2562 ลง 130,000 บาร์เรลต่อวัน ลงแตะระดับ 30.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ได้คาดการณ์การผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มเพิ่มขึ้นจากเดิม 60,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งหากกลุ่มโอเปคยังคงระดับการผลิตเท่ากับเดือน ก.พ. 62 อุปทานน้ำมันโลกจะยังคงมากกว่าอุปสงค์ โดยตลาดคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปคพร้อมที่จะเจรจากับพันธมิตรนอกกลุ่มโอเปคเพื่อขยายระยะเวลาข้อตกลงลดกำลังการผลิตออกไป เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด

- ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโลก หลังประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้เผยว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเป็นไปได้ด้วยดี แต่ยังจะไม่รีบร้อนที่จะบรรลุข้อตกลง ทั้งนี้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ล่าสุดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2562 ได้ปรับตัวเพิ่มร้อยละ 5.3 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี

+ สหรัฐฯ เตรียมที่จะออกมาตรการผ่อนปรนการคว่ำบาตรน้ำมันดิบของอิหร่านครั้งใหม่ หลังการผ่อนปรนรอบแรกจะสิ้นสุดลงในช่วงเดือน พ.ค. 62 นี้ โดยสหรัฐฯ จะให้จีนและอินเดีย ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ ยังคงซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ แต่สหรัฐฯ ได้ตั้งเป้าหมายให้การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับลดลง 250,000 บาร์เรลต่อวัน ลงไปแตะระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ และตะวันออกกลางปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับตลาดมีความมั่นใจว่าอุปสงค์จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีการนำเข้าน้ำมันดีเซลจากนอกภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเอเชียเหนือ

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 56-61 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

• อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโอเปคและพันธมิตรร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.พ. 62 ซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงมาอยู่ที่ระดับ 10.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าระดับที่ได้ทำข้อตกลงไว้กับกลุ่มโอเปคพลัสไว้ที่ 10.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน
• จับตาผลสรุปของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังผลการเจรจาในช่วงต้นเดือน มี.ค. 62 ดำเนินไปด้วยดี และมีแนวโน้มที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยทั้งสองประเทศจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มี.ค. นี้ ซึ่งหากสงครามการค้ายุติลง เศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลกจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นได้
• ติดตามทิศทางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตรที่มีสัญญาณว่าต้องการจะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด

---------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999