บรรยากาศการลงทุนยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ หลังอังกฤษไม่รับร่าง Brexit

ถึงแม้ทางสหภาพยุโรปจะยอมแก้ไขร่างข้อตกลงในการแยกตัวออกจากสหภาพ สภาอังกฤษยังปฏิเสธร่างฉบับใหม่ ทำให้ในวันนี้ (13 มี.ค.) จะมีการลงมติเห็นชอบให้อังกฤษแยกตัวออกจากยุโรปโดยไร้ข้อตกลง (No-deal Brexit) หรือไม่? หากรัฐสภายังปฏิเสธ ในวันรุ่งขึ้น (14 มี.ค.) จะเป็นการลงมติเพื่อเรียกร้องให้สหภาพยุโรป ขยายกำหนดระยะเวลาแยกตัวออกไป จากกำหนดการเดิม 29 มี.ค. เราประเมินตลาดอาจตอบรับเชิงลบ แต่ไม่รุนแรงเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของตลาดเงิน

ตัวเลขเศรษฐกิจชะลอ แต่ทิศทางนโยบายการเงินยังเป็นบวก เงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นบวกในรอบ 4 เดือน แต่เพิ่มขึ้นน้อย ไม่กระทบต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้โมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2561 อย่างไรก็ตามสิ่งที่ปีนี้แตกต่างออกไป คือ ทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางขนาดใหญ่ของโลกที่กลับมาสู่การผ่อนคลายมากขึ้น ส่งผลบวกต่อภาพรวมปีนี้ อย่างไรก็ตามการลงทุนหุ้นรายตัวยังคงต้องติดตามแนวโน้มผลการดำเนินงาน

ครมอนุมัติแผน PDP ฉบับใหม่ ในช่วง 20 ปี (2561-2580) ทั้งนี้การชะลอโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในช่วง 10 ปีแรกกระทบต่อจิตวิทยาของหุ้นพลังงานทดแทน ซึ่งตลาดรับรู้ปพอสมควรแล้ว ขณะที่ปัจจัยบวกจากการเปิดโครงการโซลาร์ภาคประชาชน/รูฟทอป (GUNKUL), สำหรับโรงไฟฟ้าใหญ่บวกต่อ RATCH จากการได้ต่ออายุโรงไฟฟ้าทดแทนของเดิม 700MW และเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นไฟฟ้าขนาดใหญ่โดยรวม

ไม่ผ่าน 1638 จุด ยังต้องระวังความผัวนผวนในทางซึมลง การเมืองและปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบ โดยเราประเมินบรรยากาศลงทุนโดยรวมมีโอกาสดีขึ้นช่วงปลายเดือนโดยเฉพาะหลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. และเจรจาการค้าจีน 27 มี.ค. หุ้นขนาดกลางที่มีการถือครองน้อยมีโอกาสถูกเก็งกำไรโดดเด่น นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นใหญ่เมื่ออ่อนตัวโดยเรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอไปแล้วในไตรมาส 4/61 อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM

ภาพรวมกลยุทธ์: เคลื่อนไหวในกรอบ 1625-1640 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวก และยังปรับขึ้นไม่มาก จำกัดความเสี่ยงด้วยการตั้งจุดตัดขาดทุน // หุ้นแนะนำวันนี้ RATCH, SAPPE* (เป้า 19 ตัดขาดทุน 16.90), TIP* (เป้า 25.50 ตัดขาดทุน 23.50)

แนวรับ 1625 และ 1610 / แนวต้าน : 1638 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.พ. อยู่ที่ 82 เพิ่มขึ้นจาก 80.7 โดยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากสถานการณ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในไทยเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และบรรยากาศการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมีความคึกคัก

AOT – ทอท.เดินหน้าสัมปทานสินค้าปลอดภาษี อายุ 10 ปี 6 เดือน โยยังให้มีผู้ประกอบการเพียง 1 ราย รวมสัญญา 4 สนามบิน ยื่นซอง 30 เม.ย.

PACE (Not rated) – เพิ่มทุน 1.23 หมื่นล้านหุ้น อัตราส่วน 3 หุ้นเดิม: 2 หุ้นใหม่:1 วอแรนต์ ที่ราคาหุ้นละ 0.25 บาทและได้รับวอแรนต์ฟรี

GSC – เข้าซื้อขายเป็นวันแรก

หุ้นปันผลที่น่าสนใจ – BCP, CPF, DCC, DRT, EASTW, MAJOR, QH, TISCO, KKP

ประเด็นติดตาม: 13 มี.ค. – ลงมติรับ No-deal Brexit/ 20 มี.ค. – ประชุม กนง. (ปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทย) / 21 มี.ค. – BOE meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)