อังกฤษต้องจ่ายเกือบ 5 หมื่นล้านยูโรหากเบร็กซิทไร้ข้อตกลง

อังกฤษต้องจ่ายเกือบ 5 หมื่นล้านยูโรหากเบร็กซิทไร้ข้อตกลง

เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า อังกฤษจะต้องจ่ายเงินค่าแยกตัวออกจากอียู (เบร็กซิท)เป็นเงินหลายหมื่นล้านยูโร ในกรณีที่อังกฤษแยกตัวจากอียูโดยไม่มีการทำข้อตกลง

การเจรจาระหว่างตัวแทนของอังกฤษและอียูในประเด็นแก้ไขข้อตกลงเบร็กซิทยังไม่มีความคืบหน้า หลังจากทั้งสองฝ่ายเจรจากันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในข้อตกลงเบร็กซิท ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำอียูก่อนหน้านี้ระบุว่า อังกฤษจะจ่ายเงินจำนวน 4.33 หมื่นล้านปอนด์ หรือเกือบ 5 หมื่นล้านยูโรในช่วงหลายปีข้างหน้าตามภาระผูกพันที่อังกฤษทำไว้ขณะที่ยังเป็นสมาชิกอียู 

แต่รัฐสภาอังกฤษลงมติอย่างถล่มทลายคว่ำข้อตกลงดังกล่าวในเดือนม.ค. และสภามีกำหนดลงมติข้อตกลงอีกครั้งในวันอังคาร (12มี.ค.)ตามเวลาอังกฤษ

อังกฤษ มีกำหนดแยกตัวอย่างเป็นทางการจากอียูในวันที่ 29 มี.ค. นี้ ซึ่งหากอังกฤษแยกตัวจากอียูโดยไม่มีการทำข้อตกลงในวันดังกล่าว อังกฤษต้องชำระเงินค่าแยกตัวออกจากอียู ก่อนที่จะมีการเจรจาใดๆเกิดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอังกฤษและอียูในอนาคต

ด้านนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า นางเมย์จะพ่ายแพ้ในรัฐสภาอีกครั้งเนื่องจากรัฐสภาจะลงมติคว่ำข้อตกลงเบร็กซิทเป็นครั้งที่ 2 เพราะถึงแม้ข้อตกลงเบร็กซิทของนางเมย์ได้รับการยอมรับจากผู้นำอียู แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจต่อสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ แม้แต่ในพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์เอง โดยเฉพาะนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการค้ำประกันว่าจะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป

ที่ผ่านมา รัฐสภาอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำร่างข้อตกลงเบร็กซิทของนางเมย์ ส่งผลให้นางเมย์ เป็นผู้นำรัฐบาลอังกฤษที่ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐสภาในรอบ 95 ปี และหากรัฐสภามีมติคว่ำข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้ง นางเมย์ก็จะเสนอให้รัฐสภาเลือกระหว่างการแยกตัวออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลง หรือจะเรียกร้องให้อียู ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค. ออกไป

หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำข้อตกลงเบร็กซิทอีกครั้งในวันอังคาร  รัฐสภาก็จะลงมติในวันพุธ(13มี.ค.)ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวออกจากอียูโดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะลงมติในวันพฤหัสบดี(14มี.ค.)ว่าจะเรียกร้องให้อียูขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้อียูขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลก็จะเจรจากับอียูในเรื่องดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้อียูขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.