รวบหนุ่มโสมขาว ใช้พาสปอร์ตแจ้งหายเข้าไทย

รวบหนุ่มโสมขาว ใช้พาสปอร์ตแจ้งหายเข้าไทย

สตม.รวบหนุ่มเกาหลี มีหมายแดงตำรวจสากลค ใช้พาสปอร์ตแจ้งหายเข้าไทย

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต. พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5 สตม. ได้วางนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบที่จะเข้ามาในประเทศไทย โดยให้เจ้าหน้าที่มีโครงข่ายข้อมูลกับนานาประเทศ เพื่อสร้างฐานข้อมูลไว้สกัดกั้นคนร้าย ที่จะมาก่อเหตุในประเทศไทยหรือเป็นที่หลบซ่อนตัวของคนร้ายได้ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2562 เจ้าหน้าที่ด่าน ตม.เชียงแสน ตรวจพบนายคิม ชอนชู (KIM CHEONSU) อายุ 35 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐเกาหลีใต้ มาเพื่อตรวจหนังสือเดินทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลระบบ SLTD (Stolen and Lost Travel Documents database) ของตำรวจสากล (INTERPOL) พบว่า หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวได้แจ้งหายและโจรกรรมไว้ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 และพร้อมกันนั้นยังปรากฏข้อมูลเป็นหนังสือเดินทางแจ้งหายในระบบสารสนเทศ (I-24/7) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อพบพิรุธจึงได้ประสานงานไปยังสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ (ประจำประเทศไทย) จึงทราบว่า นายคิม ชอนชู เป็นบุคคลที่ศาลเมืองอินชอน โดย สำนักงานอัยการเขตอินชอน ได้ออกหมายจับ ลง 2 ก.ค.2018 ในฐานความผิด “ครอบครองยาเสพติดให้โทษ เพื่อจำหน่าย” และองค์กรตำรวจสากลหมายจับ RED NOTICES เลขที่ A-12315/11-2018 ในความผิดเดียวกัน โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิดดังนี้ คือ

เมื่อ 10 เม.ย.2559 ผู้ต้องหาได้ครอบครอง เสพ จำหน่วย ยาเสพติดฟิโลโฟน (ฟิโลโฟน : ยากล่อมประสาทประหนึ่ง ซึ่งมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน) โดยได้เสพยาฟิโลโฟนร่วมกับผู้กระทำความผิดอีกหนึ่งราย ต่างกรรมต่างวาระในวันเดียวกัน และนำยาเสพติดส่งให้ลูกข่าย ชื่อ นายคิม เพื่อนำไปจำหน่าย ต่อมา เมื่อ 11 เม.ย.2559 เวลาประมาณ 18.30 น. ผู้ต้องหาและนายคิม ขับรถไปส่งยาฟิโลโฟน ให้กับนายลี โดยยาเสพติดบรรจุซองพลาสติก จำนวน 9.90 กรัม ในราคา 3 ล้านวอน จากนั้นนายลี กำลังนำไปส่งให้ลูกค้าที่บนถนน ปารีสบาคู แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เสียก่อน ในวันเดียวกันผู้ต้องหารายนี้ได้ซุกซ่อนยาฟิโลโฟน ใส่ถุงพลาสติก จำนวน 5.56 กรัม และขวดแก้วใสที่ใช้เสพยา ไว้ที่เก็บของภายในรถด้านคนขับ ซึ่งตำรวจได้ค้นได้ภายหลัง

นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังลักลอบใช้ยาฟิโลโฟนโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก เมื่อ 6 มิ.ย.2559 ผู้ต้องหาได้ลักลอบเสพยาฟิโลโฟน ปริมาณ 0.3 กรัม ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองอินชอน และเมื่อ 14 มิ.ย.2559 เวลาประมาณ 20.00 น. ก็มีพยานหลักฐานเชื่อว่า ผู้ต้องหาลักลอบเสพยาฟิโลโฟน ปริมาณ 0.3 กรัม เช่นกัน

วันที่ 15 มิ.ย.2559 ผู้ต้องหาได้ขายยาฟิโลโฟน ในปริมาณหนึ่ง ในราคา 4 แสนวอน ให้กับ นายฮุนยก จุง เหตุเกิดศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในเมืองอินชอน และในวันที่ 21 ก.ค.2559 เวลา 19.00 น. ได้ครอบครองยาเสพติด เข้าไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมืองอินซอน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าคนต่างด้าว สัญชาติเกาหลีรายนี้ นอกจากเป็นบุคคลต่างด้าวซึ่งมีหมายจับจากสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นบุคคลเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว ยังเป็นบุคคลต่างด้าวที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อกับยาเสพติดอีกส่วนหนึ่ง จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ผลักดันออกนอกราชอาณาจักร และบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทยอีกต่อไป (Black List)

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอเรียนให้ทราบว่า คนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นลักษณะต้อง ห้ามเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย เช่น มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายหรือหลบหนีคดีมาจากประเทศอื่น หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นต้น หากประชาชนท่านใดพบเห็นการกระทำความผิดหรือมีเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 จักขอบพระคุณยิ่ง