“แสนสิริ”ผนึกยักษ์ไฮเทคโลก ดันผู้นำ‘พร็อพเทค’ไทย

ขณะที่ดิจิทัล เวนเจอร์ เข้ามาช่วยในการนำเทคโนโลยี บล็อกเชน มาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพระบบจัดซื้อจัดจ้าง B2P (BlockchainSolutions for Procure-to-Pay) กับกลุ่มคู่ค้าสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเวลาและถูกต้องแม่นยำ ส่วนไมโครซอฟท์ เข้ามาช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรไปในทิศทางเดียวกันกับองค์กรที่ต้องการทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล

ในปีนี้ บริษัทใช้งบประมาณ 600 ล้านบาทในการเพิ่มศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) และบล็อกเชน มาใช้พัฒนาโครงการและบริการสอดคล้องกับเทรนด์โลกในการนำเทคโนโลยีทั้ง 3 นี้มาใช้เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานในการให้บริการลูกค้าในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโมเดลธุรกิจใหม่ที่เข้ามา อาทิ Hybrid agent ที่นิยมใช้กันในอเมริกาในการรับฝากขายบ้านผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับลูกค้า และ Instant home buyer model ที่มีแพลตฟอร์มในการให้ข้อมูลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้ง่ายขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเอไอเข้ามาเกิดการจับคู่ระหว่างดีมานด์และซัพพลาย ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นเหลือ 6-9วันจาก6 เดือน "

ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฮม และ วิชวลเซลล์ แกลเลอรี่ จำลองสำนักงานขายของโครงการต่าง ๆ มารวมกันไว้ที่ เซลล์ เซ็นเตอร์ในพื้นที่กลางใจเมือง ในไตรมาส 3 นี้ 

นอกจากนี้ แสนสิริเดินหน้าเสริมสร้างความปลอดภัยด้วย Smart Command Centre ศูนย์เฝ้าระวังอัจฉริยะ จากส่วนกลาง ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการระบบวิศวกรรมอาคารและความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดจำนวน 29 โครงการในปีนี้

พร้อมทั้งส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สานต่อพันธกิจ Green Mission ด้วยเทคโนโลยีตรวจสอบการใช้น้ำและพลังงาน และแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ หากใช้งานที่ผิดปกติ ตลอดจนมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ของลูกบ้านในทุกมิติ ด้วยการพัฒนา Dust-Free House บ้านปลอดฝุ่น สร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยทุกคนในครอบครัว โดยการนำเสนอแพลตฟอร์ม Emma เข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการของลูกบ้าน