จับตาขบวนการใต้ดิน ดิสเครดิต 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ'

เพื่อปั่นคะแนนเสียงตัวเองให้สูงขึ้น โดยใช้วิธีปล่อยข่าวในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อให้กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า “ธนาคารออมสิน” เตรียมแจกเงิน 3,000 บาท ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดต่อคิวยาว กระบวนการดังกล่าวหวังให้กระทบชิ่งต่อรัฐบาลโดยตรง เมื่อปั่นกระแสแล้วแต่ “รัฐบาล” ไม่ได้อนุมัติจริง ก็จะให้บรรดาเครือข่ายใช้วิธี “พรายกระซิบ” กล่าวหาว่า “รัฐบาล” ทอดทิ้งคนจน
แต่ที่ถูกโจมตีมากที่สุดหนีไม่พ้น “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “บัตรคนจน” โดนถล่มในทางลับเพียบ

ล่าสุด มีกระแสข่าวโฟกัสไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำข่าวเก่า 2 ปีที่แล้ว บอกกันปากต่อว่า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” จะไม่สามารถกู้เงินหรือทำธุรกรรมอย่างอื่นได้ ซึ่งในความเป็นจริงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งต้องมีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี หรือต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ก็ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้อยู่แล้ว

เนื่องจากสถาบันการเงินกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้กู้ว่าต้องมีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อระบบการเงินของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง

โดยข้อเท็จจริง “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียน เป็นต้น ให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบแทนหนี้นอกระบบ รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.85% ต่อเดือน

เกมใต้ดินเคลื่อนกันเป็นขบวนการ เพื่อ ดิสเครดิต “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใส่ร้ายกันจนประชาชนเริ่มสับสน ทั้งที่ “พรรคการเมือง” ก็ไม่มีพรรคไหนกล้าประกาศว่าจะ “ยกเลิก” การใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะหากอ้าปากพูดให้ตรงกับใจเมื่อไร มีโอกาสที่จะเสียคะแนนนิยมได้

โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ปากคงอยากบอก “ยกเลิก” บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ใจไม่กล้าพอ ทำได้เพียงเกทับว่าจะเปลี่ยนเป็น “บัตรคนรวย” ซึ่งยังไม่มีโมเดลชัดเจนว่าจะออกมาอยู่ในรูปแบบใด แต่ขอเกาะกระแสตีกินไปก่อน

จับตาดูโค้งสุดท้ายของการหาเสียง แม้จะไม่มีพรรคการเมืองใด ประกาศให้ชัดๆว่าจะ “ยกเลิก” บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ แต่คำมั่นสัญญาที่จะให้กับประชาชนว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือ “ผู้มีรายได้น้อย” จะอยู่ในรูปแบบไหนก็สำคัญยิ่ง

ว่ากันว่า “พรรคการเมือง” บางพรรคเป็นอีแอบปั่นกระแสทางลบ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” อยากได้คะแนนชนะถล่มทลาย ปิดตายคะแนนตกน้ำไม่ให้เหลือแบ่งไปพรรคการเมืองอื่น