อเนกประสงค์ งบจำกัด จัดไป ... ซูซูกิ เออร์ติก้า ทางเลือกของครอบครัวขนาดย่อม

       ล่าสุดซูซูกิ ประกาศสู้ตลาดนี้อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว เออร์ติก้า ใหม่ พร้อมกับมีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป ทั้งเรี่องของโครงสร้างตัวถัง ขนาดตัวถัง หรือว่าเครื่องยนต์ ที่หันมาใช้เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เท่ากับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า โมบิลิโอ โตโยต้า เซียนต้า หรือว่า มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่แม้ว่ามิตซูบิชิจะบอกว่าไม่ได้เป็นรถในกลุ่มเอ็มพีวี แต่เป็นครอสโอเวอร์ เอสยูวี ก็ตาม

       เกือบทุกรุ่นในนี้ เป็นรถที่มีฐานการผลิตจาก อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเภทรถที่ได้รับความนิยมสูง ยกเว้นเพียงโมบิลิโอเท่านั้นที่ผลิตในไทย

       เออร์ติก้า ใหม่ ใช้พื้นฐานหรือแพลทฟอร์มใหม่ที่เรียกว่า ฮาร์ทเทค ต่อเนื่องมาจากสวิฟท์ ซึ่งซูซูกิบอกว่า ทำให้การทรงตัวดีขึ้น การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น

       ซึ่งก็น่าจะเป็นตามนั้น เพราะการขับขี่ถ้าเทียบกับรุ่นเดิม ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า ควบคุมได้ง่ายกว่า ซึ่งการลองขับในครั้งนี้เป็นเส้นทางในเชียงราย ซึ่งมีความหลากหลายทั้งไฮเวย์ ถนนเล็กๆ และเส้นทางบนเขาที่มีคดโค้งมากมายให้ได้ลองกัน ซึ่งช่วงล่างก็จัดการได้ดี สามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ

       จุดหนึ่งที่มีผลกับการขับขี่ตรงนี้ก็คือ โครงสร้างตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความยาวที่เพิ่มขึ้น 130 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม. ความสูงเพิ่มขึ้น 5 มม. แต่ระยะฐานล้อเท่าเดิม และที่ลดลงไปก็คือ ระยะสูงจากใต้ท้องรถ หรือ กราวด์ เคลียร์แรนซ์ ที่ลดลง 15 มม. ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ช่วยได้มากกับการควบคุมรถ และลดอาการโยนตัวจากรุ่นเดิมลงไปอย่างชัดเจน

       แต่ว่าถ้าจะให้ดีกว่านี้หากพวงมาลัยเพิ่มความแม่นยำขึ้นอีกเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งน้ำหนักที่ผันแปรตามความเร็ว เมื่อเร็วขึ้นก็หนักขึ้น แต่ด้วยความเป็นเอ็มพีวี น่าจะเป็นเหตุผลในการออกแบบให้มีระยะฟรีเล็กน้อย ซึ่งหากเป็นการขับขี่ทั่วไปก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ

       ส่วนเครื่องยนต์ที่ขยับจาก 92 แรงม้า ในรุ่นเดิม 1.4 ลิตร เป็น 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ในรุ่น 1.5 ลิตร ก็ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้เพียงพอ ออกตัวได้ดี ความเร็วในการเดินทางไม่มีปัญหา ถือว่าตอบสนองได้ดี การขับขี่บนเส้นทางบนภูเขากับคน 3 คน กระเป๋าสัมภาระ 3 ใบ ก็ไปได้ไม่ยาก เพียงแต่ในช่วงการไต่เนิน อาจจะต้องเค้นกำลังมากสักหน่อย เช่นเดียวกับการเร่งแซงในระดับความเร็วช่วงกลาง ต้องเค้นกำลังเล็กน้อยเช่นกัน เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด อาจจะดูเหมือนน้อยไปหน่อย ทำให้รอบค่อนข้างสูงที่ความเร็วระดับประมาณ 120 กม./ชม. ขึ้นไป แต่ว่าเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองเก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ กับเส้นทางที่มีความหลากหลาย มีเนิน มีโค้ง กับอัตราเฉลี่ยประมาณ 13-14 กม./ลิตร ครับ 

       เออร์ติก้า เป็นรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง 3 แถว ซึ่งการที่โครงสร้างถัง ใหญ่และยาวขึ้น ทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ทำให้สามารถออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับผู้ที่นั่งในแถวที่ 3 มากขึ้น เพราะอย่างที่รู้กันว่ารถในรูปแบบนี้ เบาะนั่งแถวที่ 3 มักจะมีปัญหาในการนั่ง

       ซูซูกิ บอกว่า เออร์ติก้าใหม่เพิ่มพื้นที่ช่วงเข่าของผู้นั่งแถวที่ 3 จากรุ่นเดิม 70 มม. ซึ่งจาการลองนั่งดู ผมว่าก็นั่งได้ครับ ผู้ใหญ่ก็นั่งได้ ระยะเดินทางสัก 100 หรือ 200 กม. ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าไกลกว่านั้นก็อาจจะสลับตำแหน่งกันนั่งกับคนที่นั่งเบาะแถว 2 บ้าง

       อีกจุดที่เปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ที่นั่งแถว 3 คือ การขึ้นลงที่ง่ายขึ้น ด้วยการพับเบาะและเลื่อนเบาะนั่งแถว 2 ที่ง่ายขึ้น ด้วยสวิทช์แบบขั้นตอนเดียว จากเดิมเป็นแบบ 2 จังหวะ

       ส่วนความสามารถในการใช้งานภายในห้องโดยสาร ปรับได้หลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน ตามที่ซูซูกิบอกว่ารถคันนี้ ไม่ได้เฉพาะรถครอบครัวเท่านั้น แต่จะเป็นรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้วย

       ส่วนภาพรวมภายในห้องโดยสารนั้น วัสดุต่างๆ ดูดีขึ้น มีราคา และคุณภาพการประกอบมีความประณีตมากขึ้น

       การออกแบบดูดี ออกแนวเรียบง่าย เสริมลายไม้เพื่อเพิ่มความหรูหรา ซึ่งการเลือกใช้สีโทนเข้ม ก็ทำให้ไม่โดดจนไม่เข้าพวก และพวงมาลัยหันมาใช้แบบ ดี-เชพ ดูดีเลยทีเดียวครับ

       เออร์ติก้า มี 2 รุ่นย่อย ราคา 6.55 แสนบาท กับ 6.95 แสนบาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีเมื่อเทียบกับในตลาดเดียวกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีตัวหนึ่งของครอบครัวย่อมๆ หรือคนมีกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ครับ 

***