คลังเผยกรอบกู้เงินรัฐบาลใหม่เหลือแค่2%

คลังเผยกรอบกู้เงินรัฐบาลใหม่เหลือแค่2%

ปลัดคลังเผย กรอบวงเงินกู้ที่รัฐบาลใหม่จะสามารถนำมาใช้ได้เหลือแค่หลักแสนล้านหรือราว 2% ของงบประมาณรายจ่ายในปี 63 ส่วนปีงบ 62 เหลือน้อยมาก ฉะนั้น นโยบายรัฐสวัสดิการจึงทำได้ไม่มากนัก

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลังประเมินผลกระทบต่อฐานะการคลังจากนโยบายพรรคการเมืองต่างๆว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองจะใช้นโยบายรัฐสวัสดิการมากแค่ไหน แต่กฎหมายที่คุมเรื่องการใช้จ่ายของรัฐบาลทั้งกฎหมายวินัยการเงินการคลังหรือกฎหมายงบประมาณจะสามารถคุมกรอบการใช้จ่ายให้อยู่ในวินัยการคลังได้ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2562 จะมีกรอบวงเงินที่รัฐบาลสามารถกู้มาใช้จ่ายได้อีกไม่มากนัก เพราะถูกจัดสรรไว้หมดแล้ว ส่วนปีงบประมาณ 2563 นั้น ขณะนี้ ได้มีการตั้งวงเงินใช้จ่ายไว้แล้วเช่นกัน แต่ยังเหลือวงเงินกู้ได้อีกราว 2% ของงบประมาณรายจ่าย หรือ คิดเป็นเม็ดเงินหลักแสนล้านบาทเท่านั้น

"ไม่ว่า นโยบายรัฐสวัสดิการจะกำหนดเพิ่มมาแค่ไหน แต่รัฐบาลก็จะมีกรอบบังคับไม่ให้ใช้จ่ายได้เกินวงเงิน เช่น งบกลางใช้ได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น เมื่องบมีจำกัด ก็ใช่ว่า ทุกนโยบายจะทำได้ ไม่ใช่ว่า ครอบครัวหนึ่ง จะพาลูกไปกินอาหารจีนได้ทุกมื้อ"

เขากล่าวด้วยว่า นโยบายที่พรรคการเมืองนำมาใช้หาเสียงนั้น ประชาชนจะต้องประเมินด้วยว่า ในอนาคตแล้วจะก่อให้เกิดภาระต่องบประมานแผ่นดินแค่ไหน และ จำเป็นไหมที่ต้องใช้นโยบายนี้ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้ก็รับไปโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าว