'อัยการ' รับสำนวนล้มบอลไทยลีกดิวิชั่น2 นัดสั่งคดี12 มี.ค.นี้

'อัยการ' รับสำนวนล้มบอลไทยลีกดิวิชั่น2 นัดสั่งคดี12 มี.ค.นี้

อัยการตั้งคณะทำงาน "พรชัย รอง อธ.คดีอาญา" คุมสำนวน "2 อดีตเชิ้ตดำไทยลีก-ผู้บริหารสโมสรฟุตบอล" ถูกกล่าวหาจ้าง กก.ช่วยล้มบอล รอตรวจสำนวนหากข้อเท็จจริงสมบูรณ์ ไม่ต้องสอบเพิ่ม ส่วนคดีล้มบอลดิวิชั่น 1 ก๊วนใหญ่รอศาลสืบพยาน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.62 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เวลา 14.30 น. นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา , นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา , นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด , นายทีปกร โกมลพันธ์พร ผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานคดีอาญา และ พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. ได้แถลงข่าว ภายหลังได้รับสำนวนการสอบสวนคดีร่วมเสนอผลประโยชน์ล้มบอล การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ดิวิชั่น 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2561

อัยการสำนักงานคดีอาญา ได้ยื่นฟ้องคดีล้มบอลล็อคผลสกอร์การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2017 ดิวิชั่น 1 ไปแล้วรวม 15 ราย ซึ่งชุดแรกนั้นมีทั้งกลุ่มผู้ตัดสิน 2 ราย ,นักฟุตบอลอาชีพ 8 ราย ,ทีมราชนาวี เอฟซี และทีมศรีสะเกษ เอฟซี และกลุ่มนายทุน (พนัน) หรือตัวแทนนายทุน 5 รายโดยสำนวนคดีอาญา กล่าวหาการล้มผลแข่งขันฟุตบอลไทยลีก เดวิชั่น 2 ในวันนี้ มีพ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์โดยนายธนพงศ์ จูสนิท ผู้รับมอบอำนาจ เป็นผู้กล่าวหาที่ 1 -2

ขณะที่มี นายณฐกร ฉิมพาลี อดีตกรรมการผู้ตัดสินระดับไทยลีก 1 และอดีตสตาฟ์โค้ชทีมชาติไทย ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 , นายเทิดศักดิ์ ทองกล่ำ อดีตกรรมการผู้ตัดสินระดับไทยลีก 2 ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ,นายพงศ์พันธ์ วงศ์สุบรรณ อดีตผู้บริหารสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งนายณฐกร ฉิมพาลี ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเทิดศักดิ์ ทองกล่ำ ที่ 2 ถูกกล่าวว่า กระทำความผิดฐานเป็นผู้ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 มาตรา 66

ส่วน นายพงศ์พันธ์ วงศ์สุบรรณ ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกกล่าวว่า เป็นผู้ใช้ ให้ผู้อื่นติดต่อผู้ตัดสินเพื่อขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 มาตรา 66 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 ซึ่งภายหลัง นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาผู้รับ สำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวจำนวน 1 แฟ้ม ความหนา 264 หน้าจากตำรวจแล้ว

พ.ต.อ.ธีระชัย กล่าวว่า คดีนี้ ได้กล่าวหาว่ามีการกำหนดผลการแข่งขันฟุตบอลล่วงหน้า ซึ่งเหตุเกิดเมื่อ เม.ย.61 โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ขอให้กรรมการที่จะทำหน้าที่ตัดสินกีฬาช่วยเหลือทีมใดทีมหนึ่ง เพื่อให้ชนะการแข่งขัน แต่กรรมการปฏิเสธ ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ ได้นำข้อมูลส่งมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีล้มบอล และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ซึ่งผู้ต้องหาถูกจับกุมได้เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวน พร้อมตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง ต่อไป

ขณะที่ นายวิเชียร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 619/2561 ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีผิด พ.ร.บ.การส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 โดยมีผู้ต้องหา 3 ราย เป็นตัวการ 2 ราย และผู้ใช้จ้างวาน 1 ราย มายังสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเราเห็นว่าเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ และรัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามการพนันประเภทนี้ ก็จะตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนหลักฐาน โดยให้นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ที่มีอัยการสำนักงานคดีอาญา 6 รับผิดชอบสำนวน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 15 วัน ก่อนจะนัดผู้ต้องมาว่าฟังคำสั่งต่อไป

ด้าน นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า สำหรับมูลค่าตัวเงินในสำนวนนี้ยังไม่ปรากฏตัวเลขชัด ซึ่งเป็นลักษณะเสนอการจ้างล้มบอลก็จะมีตัวเลขจำนวนหนึ่ง ส่วนสำนวนคดีจำเป็นจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นหรือไม่ ขณะนี้ก็มีการตั้งคณะทำงานอัยการจากสำนักงานคดีอาญา 6 แล้ว ประมาณ 3 คน โดยมีตนเป็นผู้ควบคุม ก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดในสำนวนก่อนว่า สำนวนการสอบสวนที่ได้รับมาจากตำรวจครบถ้วนบริบูรณ์แล้วหรือไม่ ซึ่งเราก็จะพิจารณาทั้งเส้นทางการกระทำผิด , มูลเหตุชักจูงใจ , การเตรียมการ , การวางแผน และการลงมือกระทำผิดสอดคล้องต้องกันอย่างไรโดยถ้ามีประเด็นต้องสอบเพิ่มเพื่อให้ข้อเท็จจริงสมบูรณ์อัยการก็จะต้องสั่งสอบเพิ่มเติม แต่วันนี้เพิ่งได้รับสำนวนมายังเร็วเกินไปที่จะต้องว่ามีความจำเป็นในการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่

ขณะที่วันนี้ยังไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสามได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมในประเด็นใดๆ บ้างหรือไม่เพราะวันนี้เพิ่งส่งมอบสำนวนการสอบสวนจากตำรวจให้อัยการ อย่างไรก็ดีเนื่องจากคดีตำรวจไม่มีการฝากขังหรือควบคุมตัวผู้ต้องหาเพราะได้ประกันตัวไป จึงไม่มีระยะการควบคุมตัวที่จะมาเป็นข้อจำกัดควบคุมระยะเวลาพิจารณาระหว่างการสั่งคดี ซึ่งคดีนี้ยังไม่ขาดอายุความ ดังนั้นการสั่งคดีเราจะเน้นความสมบูรณ์ของสำนวนให้ครบถ้วนบริบูรณ์ที่สุด อย่างไรก็ดี เนื่องจากการล้มบอลส่งผลให้มาตรฐานกีฬาไทยตกต่ำและมีปัญหา สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ ผู้ที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ 2556 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ตัดสิน ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 300,000 - 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวอีกว่า สำหรับ คดีล้มบอลสำนวนแรกที่ยื่นฟ้องจำเลย รวม 15 คน ในคดีหมายเลขดำ อ.2131/2561 ประกอบด้วยผู้ตัดสิน 2 ราย , นักฟุตบอลอาชีพ 8 ราย ในทีมราชนาวี และ ศรีสะเกษ เอฟซี และกลุ่มนายทุน (พนัน) หรือ ตัวแทนนายทุนอีก 5 ราย ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 มาตรา 64,66 และ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ที่มีมูลเหตุจูงใจ เป็นเงินพนัน ซึ่งกลุ่มนี้กระทำการใน 5 แมทช์การแข่งขัน กลุ่มนักกีฬา 8 ราย ถูกยื่นฟ้อง พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ มาตรา 65 ส่วนกลุ่มผู้ตัดสิน 2 ราย ถูกยื่นฟ้องพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพฯ มาตรา 67 นั้น คดีรอศาลอาญาสืบพยาน ซึ่งกำหนดสืบพยานโจทก์นัดแรกในเดือน ต.ค.นี้ โดยแมทช์การแข่งขันคดีเเรก กับสำนวนคดีที่เพิ่งได้รับมาวันนี้ผู้ต้องหาไม่ใช่ชุดเดียวกัน ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันในแมทช์แข่งขันเดียวกันแต่อย่างใด ชุดแรก

ทั้งนี้ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่ได้รับสำนวนแล้ว อัยการได้กำหนดนัดให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มารายงานตัวกับอัยการครั้งแรกในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เพื่อฟังคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป