ตร.จับช่างเทคนิค ลอบนำข้อมูล Polis นำขายทนาย-พรรคการเมือง

ตร.จับช่างเทคนิค ลอบนำข้อมูล Polis นำขายทนาย-พรรคการเมือง

ตร.ขยายผลจับช่างเทคนิค รับลักลอบนำรหัสตำรวจมาใช้-ขาย มีลูกค้าทั้งทนายความ-นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาผู้ลักลอบเข้าระบบคอมพิวเตอร์ (Polis) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายสมชาย เข็มเพชร อายุ 37 ปี รองนายกเทศมนตรี ในพื้นที่จ.พะเยา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ขณะกำลังเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ (Polis) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้บัญชีผู้ใช้และรหัสผู้ใช้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของบุคคลอื่นให้กับพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุและพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง และได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 6 ปาก จนทราบว่านายอิงค์สง่า ชมดี หรือช่างกร อายุ 40 ปี ทำหน้าที่รับจ้างติดตั้งและเชื่อมต่อระบบสารสนเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ ต่อศาลอาญา และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับที่ 256 / 2562 ลงวันที่ 14 ก.พ. ในความผิดฐานร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบด้วยซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, เป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 5, มาตรา 7 และมาตรา 12 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จนต่อมาเมื่อวันนี้ 16 ก.พ.เวลาประมาณ 11.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย รอง ผกก.สส.บก.น.4 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายอิงค์สง่า ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 501/76 ซอยเปียร์นนท์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เป็นช่างรับติดตั้งและเชื่อมต่อระบบดังกล่าวจริง โดยคิดค่าใช้จ่ายการติดตั้งและเชื่อมต่อระบบ ครั้งละ 1,000 บาท โดยติดตั้งตามสถานีตำรวจต่างๆ จากนั้นได้แอบลักลอบเอารหัสของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาใช้บ้าง ขายบ้าง ในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆจะคิดในราคา ครั้งละ 500–1,000 บาท มีลูกค้าเป็นทนายความ นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนทั่วๆไป โดยก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี จึงได้นำตัวพร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป