‘ภาษีรถยนต์นำเข้า’อำนาจต่อรองใหม่ของ“โดนัลด์ ทรัมป์”

‘ภาษีรถยนต์นำเข้า’อำนาจต่อรองใหม่ของ“โดนัลด์ ทรัมป์”

กระทรวงพาณิชย์เริ่มสอบสวนภัยคุกคามจากรถยนต์นำเข้าตั้งแต่เดือน พ.ค.2561 ตามคำขอของทรัมป์ ที่เรียกกันว่า “การสอบสวนตามมาตรา 232”

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐส่งรายงานผลการสอบสวนภัยคุกคามจากรถยนต์นำเข้าให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐบาลสั่งเก็บภาษีก้อนโตจากรถยนต์และอะไหล่นำเข้า แม้รายละเอียดรายงานยังไม่ได้รับการเผยแพร่แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมรุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์

“วิลเบอร์ รอส ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ส่งรายงานความมั่นคงแห่งชาติ “มาตรา 232” ให้ประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนเส้นตาย 270 วันไม่ถึง 2 ชั่วโมง โฆษกกระทรวงไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดในรายงาน

ประธานาธิบดีมีเวลา 90 วัน ตัดสินใจว่าจะทำตามคำแนะนำในรายงานหรือไม่ คาดว่าน่าจะมีการเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า หรือเก็บภาษีเทคโนโลยีและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และรถที่ใช้ร่วมกัน

ทันทีที่ทำเนียบขาวได้รับรายงาน อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ประกาศว่าจะรณรงค์ต่อต้านครั้งใหญ่เพราะการเก็บภาษีรถยนต์นำเข้านับล้านๆ คันและอะไหล่รถยนต์ ในอัตราสูงถึง 25% จะทำให้ราคารถสูงขึ้นอีกหลายพันดอลลาร์ และอาจทำให้แรงงานหลายแสนคนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐต้องตกงาน

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งเป็นตัวแทนซัพพลายเออร์อะไหล่รถเตือนว่า การเก็บภาษีอาจดึงการลงทุนในสหรัฐ ในช่วงที่อุตสาหกรรมรถยนต์เสียหายจากยอดขายดิ่งลงไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการที่ทรัมป์เก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม และภาษีอะไหล่รถยนต์จากจีน

“ภาษีเหล่านี้ถ้าเก็บจริงก็เท่ากับขับไล่ไสส่งพัฒนาการและการใช้เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่ออกไปนอกประเทศ ทิ้งให้อเมริกาล้าหลัง ไม่มีบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐรายใดเลยที่ขอให้เปิดสอบตามรายงานฉบับนี้” แถลงการณ์ระบุ

กระทรวงพาณิชย์ เริ่มสอบสวนภัยคุกคามจากรถยนต์นำเข้าตั้งแต่เดือน พ.ค.2561 ตามคำขอของทรัมป์ ที่เรียกกันว่า “การสอบสวนตามมาตรา 232” เพื่อดูผลกระทบจากรถยนต์นำเข้าต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ (17 ก.พ.)

บริษัทผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายต่างเตรียมใจไว้แล้วว่า ข้อเสนอในรายงานต้องรวมถึงการหว่านแหเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าและอะไหล่ในอัตรา 20-25% หรือเก็บภาษีจำกัดวงลงมาเหลือส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์พลังงานใหม่ รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และรถที่ใช้ร่วมกัน

ตอนที่เริ่มเปิดสอบกระทรวงพาณิชย์กล่าวเป็นนัยว่า เน้นที่เทคโนโลยีรถยนต์เกิดใหม่ กระทรวงชี้แจงว่า การขู่เก็บภาษีรถยนต์เป็นวิธีทำให้ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (อียู) ยอมอ่อนข้อให้

ปีที่แล้วทรัมป์ตกลงไม่เก็บภาษีตราบเท่าที่คู่ค้าทั้งสองฝ่ายยังคุยกันอย่างสร้างสรรค์ แต่เมื่อวันศุกร์ (15 ก.พ.) ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ภาษีช่วยคุ้มครองอุตสาหกรรมและทำข้อตกลงการค้ากันได้

“ผมไม่ใช่ชอบแค่เก็บภาษีเท่านั้นนะ ยังชอบใช้ภาษีมาต่อรองด้วย”ทรัมป์กล่าว

รายงานจากกลุ่มคลังสมอง “ศูนย์วิจัยรถยนต์” ในเมืองแอนอาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ เผยถึงสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดจากการเก็บภาษี 25% ว่าจะทำให้แรงงานสหรัฐ 366,900 คนในภาครถยนต์และที่เกี่ยวข้องต้องตกงานราคายานพาหนะบรรทุกเบาของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 2,750 ดอลลาร์โดยเฉลี่ย รวมถึงรถที่ผลิตในสหรัฐ ยอดขายรายปีลดลง 1.3 ล้านคัน สุดท้ายแล้วจะบีบผู้บริโภคไปหาตลาดรถมือสอง

ปีที่แล้ว บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่เคยกล่าวว่า สหรัฐต้องเจอผลกระทบสั่งสม ราคารถเพิ่มขึ้น 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมโต้แย้งว่า ไม่มีหลักฐานระบุว่ารถยนต์นำเข้าเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติแต่อย่างใด

และแม้รัฐบาลวอชิงตันเดินหน้าเก็บภาษี แต่แคนาดาและเม็กซิโกก็สามารถส่งรถยนต์เข้ามาขายในสหรัฐได้ประเทศละ 2.6 ล้านคันโดยไม่ต้องเสียภาษี ตามข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือฉบับใหม่