'หญิงหน่อย' โพสต์โต้ผบ.ทบ. ต้องลดงบทหาร แบ่งมาช่วย ปชช.

'หญิงหน่อย' โพสต์โต้ผบ.ทบ. ต้องลดงบทหาร แบ่งมาช่วย ปชช.

"หญิงหน่อย" โพสต์โต้ "ผบ.ทบ." ชี้กระทรวงกลาโหม มีงบประมาณปีละกว่า 2 หมื่นล้านบาท หากลดลง 10 % ก็มีเงินนำมาสร้างอาชีพให้กับ ปชช.

ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ความคิดเห็น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.เกี่ยวกับนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง โดยอ้างอิงถึงนโยบายการตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหม 10% และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นใช้แนวทางการสมัครใจแทน ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ ตอบผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า ให้ไปฟังเลง หนักแผ่นดิน

กระทั่งต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมต.กลาโหม ออกมาประสานเสียงตอบคำถามผู้สื่อข่าวในลักษณะเดียวกันกับที่ ผบ.ทบ.ตอบไปเมื่อช่วงเช้า โดยแนะให้ไปฟังเพลง หนักแผ่นดิน เช่นเดียวกัน และในวันที่ ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีการเปิดเพลงนี้ในเสียงตามสาย พร้อมมีคำสั่งให้เปิดเพลงนี้ในสถานีวิทยุ จ.ส. ของกองทัพบก ทั่วประเทศอีกด้วยนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.29 น. วันที่ 18 ก.พ. 62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เเกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตน ถึงความจำเป็นที่ต้องลดงบกระทรวงกลาโหม ให้เหมาะสมกับความจำเป็นของประเทศ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงดังกล่าวมีงบประมาณปีละกว่า 2 แสนล้านบาท หากลดลง 10 % ก็ได้งบถึง 2 หมื่นล้านบาท นำช่วยเหลือสร้างโอกาส สร้างอาชีพ ให้กับประชาชนจำนวนมาก

ซึ่งโพสต์ดังกล่าว มีข้อความทั้งหมดดังนี้ “รู้สึกเป็นห่วงวิธีคิดของ​ ผบ.ทบ. ที่ถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ของประเทศ ทีมีท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่งกับคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดทนายกในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีที่มาจากการรัฐประหาร แต่แข็งกร้าวกับคนที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชนตามครรลองประชาธิปไตยแบบไร้เส้น ทั้งที่โดยสถานะ ผบ.ทบ. ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

“ถ้าจะต้องให้บอกว่า จะเพิ่มงบให้ กห. จากแสนกว่าล้านบาท เป็นสองแสนกว่าล้านบาท แบบที่รัฐบาลนี้ทำ จึงจะเป็นคนไม่หนักแผ่นดินในสายตา ผบ.ทบ.

“ดิฉันจะขอยืนยันในความถูกต้อง ที่ได้เสนอขอปรับลดงบ กห. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ที่ประชาชนคนส่วนใหญ่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กับปัญหาปากท้อง และในเวลานี้ ยังไม่ปรากฏภัยคุกคามทางความมั่นคงของประเทศ ถึงขั้นจะต้องใช้กำลังคน และอาวุธยุทโธปกรณ์มากไปกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

“ดิฉันขออนุญาตพูดอีกครั้งหนึ่ง เผื่อผู้มีอำนาจจะฟังบ้าง เราเสนอให้ลดงบประมาณลงเพียง 10% ในส่วนที่ใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องซื้ออย่างมากมายในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศที่แย่อย่างทุกวันนี้

“เราชวนกลาโหมให้มาช่วยกันสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนตัวเล็กๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและตำแหน่งงานน้อยลง งานหายากขึ้น และคนจะตกงานมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จากภาวะเศรษฐกิจ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามากระทบต่ออาชีพต่างๆ ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนคนไทยและเด็กรุ่นใหม่ของเรา

“งบประมาณที่ขอแบ่งมา 10% นี้เป็นจำนวน เพียง​ 20,000 ล้านบาท จากงบประมาณ กห. ทั้งหมด กว่า 200,000​ ล้านบาท จะเอามาช่วยคนรุ่นใหม่ให้มีอาชีพ ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเด็กรุ่นใหม่ และประชาชนได้ มากกว่า​ 30,000 คน ต่อปีซึ่งเป็นการให้โอกาสคนรุ่นใหมได้มาเป็นกำลังในการผลิตและสร้างรายได้ให้กับประเทศ

“ทหารและงบประมาณทหารมีความจำเป็น แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็น และใช้ให้มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนากำลังพลและศักยภาพของกองทัพ

“การเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้ใช้ระบบสมัครใจเข้ารับราชการ จะ เป็นการพัฒนาบุคลากรที่เข้ารับราชการทหารเพราะได้เข้ามาด้วยความเต็มใจก็จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ​ รวมทั้งจะใช้งบประมาณน้อยกว่า

เรายืนยันว่างบประมาณส่วนที่ขอแบ่งมาจากงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพียง 10% นี้จะไม่กระทบต่อการดูแลรายได้ และสวัสดิการของกำลังพล ตรงกันข้ามเรากลับมองว่า เราควรจะสนับสนุนในการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สมกับความเสียสละของเขาที่ถือเป็นเหล่าทหารกล้า

โดยส่วนตัวดิฉันชื่นชมทหารที่เป็นทหารอาชีพ เพราะเขาเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และสนับสนุนให้ทหารอาชีพเหล่านี้ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ดิฉันไม่ชื่นชมทหารที่มาทำรัฐประหารยึดอำนาจจากประชาชน

ขอบคุณที่มา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan