ยื่นยุบ 'พปชร.' อ้างผิด3เรื่อง ชี้ชงชื่อ 'ประยุทธ์' เป็นปฏิปักษ์ต่อปค.

ยื่นยุบ 'พปชร.' อ้างผิด3เรื่อง ชี้ชงชื่อ 'ประยุทธ์' เป็นปฏิปักษ์ต่อปค.

"ไทยรักษาชาติ" ยื่นยุบ "พปชร." อ้างผิด3เรื่อง ชี้ชงชื่อ "ประยุทธ์" เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง "อุตตม" เป็นหัวหน้าพรรคก่อนเป็นสมาชิกพรรค

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เวลา 11.00 น. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยขอให้กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากความผิดรวม 3 ประเด็นที่ตนได้ยื่นร้องเรียนไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นความผิดที่เข้าข่ายยุบพรรคชัดเจนยิ่งกว่า โดยกรณีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคสช. เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค พปชร. เท่ากับเป็นการกระที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ส่วนนายอุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรคพปชร. ก่อนเป็นสมาชิกพรรค จึงถือว่าเป็นบุคคลภายนอกตามมาตรา 28 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่เข้าข่ายครอบงำพรรค ผิดมาตรา 92 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ต้องถูกยุบพรรค รวมถึงกรณีโต๊ะจีนระดมทุน ถือเป็นการแสวงหาผลกำไรมาแบ่งปันกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ พปชร.ยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดกับกกต.ได้ จึงเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) เช่นกัน

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ตนขอให้ กกต.พิจารณายุบ พปชร.ในมาตรฐานเดียวกันกับที่ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ทั้งนี้ เมื่อตนได้เห็นคำร้องยุบพรรคทษช. ที่กกต.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว พบว่า กกต.อ้างเหตุย้อนแย้งกันเอง โดยระบุว่า กกต.ไม่รับพิจารณาแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทษช. แต่กลับใช้กฎหมายพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 ว่า ทษช.กระทำการเป็นปฏิปักษ์ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค แต่ขณะเดียวกันกลับใช้มาตรา 14 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง รับรองส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งทุกประเด็นจะต้องนำไปต่อสู้กันในศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ยืนยันว่ากรณีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯของทษช. ควรจบตรงที่กกต.ไม่ประกาศรับรองเพราะขาดคุณสมบัติเท่านั้น ไม่ควรถูกนำไปตีความและขยายความให้เกินเลย