การเมืองและงบกดดันตลาดแกว่งอ่อนตัว เน้นเลือกตัว ซื้อตั้งรับ ไม่ไล่ราคา

การเมืองและงบกดดันตลาดแกว่งอ่อนตัว เน้นเลือกตัว ซื้อตั้งรับ ไม่ไล่ราคา

ยอดค้าปลีกสหรัฐอ่อนแอและตัวเลขเศรษฐกิจจีนดีแต่เป็นผลชั่วคราว

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกธ.ค.ลดลง 1.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 ปี (ตั้งแต่เดือนก.ย.52) กระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวได้รับผลกระทบจากช่วงที่สหรัฐฯมีการปิดหน่วยงานรัฐบางแห่ง (Government shutdown) ทำให้สถานการณ์ในรอบต่อไปคาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าช่วงม.ค.ของจีน ออกมา +9.1% และ -1.5% (ดีกว่าตลาดคาดที่ -4.4% และ -7.6%) ซึ่งเป็นผลจากการเร่งนำเข้าก่อนช่วงตรุษจีน

ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณายุบทษช. 27 ก.พ. บรรยากาศบวกจากการเลือกตั้งลดทอนลง หลังศาลรัฐธรรมนูญมติเอกฉันท์รับคำร้องยุบ ทษช. ศาลรัฐธรรมนูญให้แก้ข้อกล่าวหาใน 7 วัน โดยมีนัดพิจารณาอีกครั้ง 27 ก.พ. ขณะที่วันนี้ (15 ก.พ.) กกต.จะประกาศรับรองคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.เขตทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะมีผู้สมัครไม่ผ่านคุณสมบัติจำนวนหนึ่ง

ต่างชาติขายวันที่ 5 ผลการดำเนินงานกลับมามีอิทธิพล เริ่มเห็นแรงขายในตลาดภูมิภาคทั้ง อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน รวมถึงไทย ขณะที่เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังก.พ.ที่เป็นช่วงประกาศงบปี 2561 ทั้งนี้กำไรบจ.ไทย (SET Index) ถูกปรับลดลงจากต้นปีแล้ว 3.5% ดังนั้นการเก็งกำไรจึงต้องพิจารณาติดตาม และเพิ่มการระวังความเสี่ยงจากบริษัทที่ผลการดำเนินงานอาจออกมาแย่กว่า หรือฟื้นช้ากว่าคาด เช่น KCE ซึ่งประเมินตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรลงราว 10-15% และเป็นเหตุให้หุ้นปรับลดลงแรง

เน้นรอซื้อเชิงตั้งรับค้าปลีก อาหาร ไฟฟ้า เก็งกำไรสั้นเน้น พลังงาน โรงกลั่น หุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับลงแรงสะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่แย่ไปแล้วในไตรมาส 4/61 อย่างกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น PTT, PTTEP, TOP, BCP ทั้งนี้สำหรับกลุ่มหุ้นลงทุนเรายังชอบกลุ่มค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว ไฟฟ้า สาธารณูปโภค อาทิ CPALL, ROBINS, CPF, TU, AOT, ERW, MINT, EGCO, GPSC, BEM, BTS โดยเน้นการทยอยซื้อ หรือซื้อที่แนวรับ/เมื่ออ่อนตัว

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1640-1667 จุด การกลับมายืนเหนือ 1645 จุด ทำให้โมเมนตัมยังเป็นบวกแม้ดัชนีอาจชะลอตัวในช่วงสั้น เน้นเลือกตัวที่ไม่เสียเปรียบต้นทุน  // หุ้นแนะนำวันนี้ MAJOR, BCP, GUNKUL /เก็งกำไร KTC* (เป้า 34 ตัดขาดทุน 30.50), NER* (เป้า 2.80 ตัดขาดทุน 2.40)

แนวรับ 1640 / แนวต้าน : 1660-1667 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์พร้อมลงนามเลี่ยงชัตดาวน์ แต่เตรียมใช้อำนาจดึงงบสร้างกำแพง – ทรัมป์ วางแผนลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (+ค่ารั้วชายแดน) เพื่อเลี่ยงการเกิดภาวะชัตดาวน์หลังวันที่ 15 ก.พ. แต่เตรียมประกาศใช้อำนาจฉุกเฉินแห่งชาติออกกฎหมายอนุมัติงบสร้างกำแพงชายแดน

ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯร่วงมากสุดในรอบ 9 ปี – ตัวเลขค้าปลีกเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ร่วงหนักสุดในรอบ 9 ปี สร้างความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาด ซึ่งเนปัจจัยหลักที่กดดันเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าลงแรงเมื่อคืนนี้

รฟท.นัดเจรจากลุ่มซีพี 18 ก.พ. – รฟท.ระบุนัดเจรจาต่อรองโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกับกลุ่มซีพีเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 18 ก.พ. ประมูลเสร็จ มี.ค.

ยังไม่มีข้อสรุปขยายเวลาชำระคลื่น 900 MHz – รองนายกฯวิษณุ ระบุ ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาชำระเงินค่างวดประมูลคลื่น 900 MHz กับกลุ่มผู้ประกอบการมือถือ (ADVANC DTAC TRUE) ไปเป็นปี 2563 และยังไม่มีการประกาศใช้ ม.44 เพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าว

ประเด็นติดตาม: 14-15 ก.พ. –หารือสงครามการค้าที่จีน, 18 ก.พ. – รฟท.นัดคุยซีพีรอบสุดท้าย, 27 ก.พ. – ศาล รธน. นัดคุย ทษช. กรณียุบพรรค  

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)