'คนอยากเลือกตั้ง' ค้านยุบทษช. อ้างแตกแยกทางการเมือง

'คนอยากเลือกตั้ง' ค้านยุบทษช. อ้างแตกแยกทางการเมือง

กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ร่วมต้านยุบพรรค อ้างแตกแยกทางการเมือง-สมคบโกงเลือกตั้ง ด้าน "เรืองไกร" ยื่นศาลรธน. อ้างคำร้องกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำไม่ครบขั้นตอน ตีความคำว่า "ปฏิปักษ์" เกินเลย ขอศาลจำหน่ายคำร้องยุบพรรคทษช. ไม่รับคดีไว้วินิจฉัย

ศาลรัฐธรรมนูญ - เวลา 11.00 น. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นร้องต่อศาลรัธรรมนูญขอให้ไม่รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้วินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีเสนอชื่อแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีเข้าข่าย กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากเห็นว่า กกต. อาศัยเพียงพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาใช้ในการลงมติและมอบหมายให้นายทะเบียนมายื่นคำร้องอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการพิจารณาของกกต.จะต้องมีการไต่สวน สอบสวนให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิชี้แจงแสดงหลักฐาน ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต .หมวด 2 การสืบสวน การไต่สวน และการดำเนินคดี และระเบียบคณะกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 แต่เมื่อไม่ดำเนินการย่อมอาจเข้าข่ายลักษณะกระทำการหรือละเว้นการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามมาตรา 69 พ.ร.ป.กกต.ได้ และหากศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป กรณีย่อมอาจขัดต่อหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง กำหนดไว้

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การกล่าวหาว่าการกระทำของพรรคเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งคำว่าปฏิปักษ์ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง ฝ่ายตรงข้าม ข้าศึก ศัตรู ย่อมหมายความว่า พรรคทษช.อันอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือข้าศึก ศัตรู ต่อการปกครอง ซึ่งข้อเท็จจริงที่กกต.นำมาพิจารณานั้น เป็นการตีความไปเองให้เกินเลยไปกว่าตัวหนังสือที่ปรากฎในพยานหลักฐาน

"คำร้องของ กกต. มีปัญหาไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และหากมีการนำคำว่า “ปฏิปักษ์” ไปวินิจฉัยตีความให้เกินเลยไปกว่าตัวหนังสือที่ปรากฏในพยานหลักฐาน จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณามีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือจำหน่ายคดี ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 77โดยเร็ว"นายเรืองไกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดยนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง และนายเอกชัย หงส์กังวาล รวมทั้งแนวร่วมเดินทางมา พร้อมตะโกนคัดค้านการยุบพรรคไทษรักษาชาติ(ทษช.)​ และอยากเลือกตั้ง พร้อมออกแถลงการณ์ ว่าหากมีการยุบพรรคจะทำให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง และสะท้อนว่าการพิจารณาของ กกต.เป็นสองมาตรฐาน การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ หากพรรคการเมืองต้องถูกยุบโดยที่ยังไม่ได้หาเสียงจะถือเป็นการร่วมกันสมคบโกงเลือกตั้งจากผู้มีอำนาจหรือไม่ สังคมไทยจะให้คำตอบเองในวันที่ 24 มี.ค. หากในวันนั้นยังมีการเลือกตั้ง นอกจากนี้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งยังได้รวมตัวถือป้ายผ้าสีดำขนาดใหญ่ระบุข้อความ “โกงเลือกตั้ง” เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญด้วย