'จำลอง-สนธิ' บอกเตรียมตัวไว้แล้วคนอยู่ข้างนอกต้องสู้ต่อไป

'จำลอง-สนธิ' บอกเตรียมตัวไว้แล้วคนอยู่ข้างนอกต้องสู้ต่อไป

"อดีต แกนนำ พธม." รอลุ้นตัดสินล้อมสภาปี 51 อีกคดี ศาลอาญานัดพิพากษาเช้า 4 มี.ค.นี้ "ไชยวัฒน์" อดีตแนวร่วม พธม. ระบุต่อไปชัดเจน ชุมนุมปิดทำไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.62 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้จำคุก 8 เดือนโดยไม่รอลงอาญา 6 แกนนำ พธม. แล้ว ภายในห้องพิจารณา 809 กลุ่มญาติและผู้สนับสนุนที่เดินทางมาศาลร่วมให้กำลังใจแกนนำในการฟังคำพิพากษา ต่างแสดงความเสียใจ เข้าไปพูดคุยโอบกอดจับมือให้กำลังใจ 6 แกนนำ โดย พล.ต.จำลอง จำเลยที่ 1 ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณพี่น้องที่มาให้กำลังใจ พวกเราเตรียมตัวไว้แล้ว

ขณะที่ระหว่างเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัว นายสนธิ จำเลยที่ 2 กลับลงไปที่ห้องควบคุม ใต้อาคารศาลอาญาเพื่อรอเข้าเรือนจำ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. ที่เดินทางมาให้ร่วมให้กำลังใจด้วย ก็ได้พูดคุยกับนายสนธิ ซึ่งทั้งสองได้กอดให้กำลังใจกันและพูดคุยกันว่า คนอยู่ข้างนอกต้องสู้ต่อไป

20190213144712159

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก 6 แกนนำ พธม. ได้พูดคุยกับผู้มาให้กำลังใจช่วงหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ให้จำเลยได้เปลี่ยนชุด และเตรียมข้าวของเครื่องใช้ เพื่อเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรับโทษตามคำพิพากษาฎีกา ขณะที่กลุ่มญาติและผู้สนับสนุน ก็ได้ตั้งแถวหน้าห้องพิจารณา เพื่อร่ำลาแกนนำ

ด้าน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตแนวร่วม พธม. ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นประวัติศาสตร์ในการทำหน้าที่ของประชาชนทางการเมือง โดยประชาชนอ้างสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมซึ่งปกครองประเทศ คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ที่สุดแล้วศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกเลยทั้งหก 8 เดือนไม่รอลงอาญา ซึ่งก็เป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าการต่อสู้ของประชาชน การชุมนุมตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น ศูนย์กลางอำนาจคือทำเนียบรัฐบาลเป็นบริเวณที่กระทำไม่ได้ สำหรับผู้ที่เคยร่วมต่อสู้และเป็นห่วงทั้ง 6 คน และอยากไปเยี่ยม ขอให้เป็นวันพรุ่งนี้แทน (14 ก.พ.) ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่เจ้าหน้าราชทัณฑ์กำลังขับรถตู้เรือนจำ ออกจากด้านหลังศาลอาญา เพื่อคุมตัวอดีตแกนนำ พธม.ทั้ง 6 คน ไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กลุ่มผู้สนับสนุน รวมทั้งนายไชยวัฒน์ และนายอมร อมรรัตนานนท์ อดีตแนวร่วม พธม. ได้โบกมือให้กำลังใจ อดีตแกนนำ พธม. โดย นายสุริยะใส จำเลยที่ 6 ที่นั่งอยู่ในรถตู้ได้ยกมือเป็นสัญลักษณ์โอเค ก่อนที่รถตู้จะขับออกไปจากบริเวณศาล

ทั้งนี้ การที่ศาลฎีกา มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 8 เดือนไม่รอลงอาญาครั้งนี้ ส่งผลให้ นายสุริยะใส อดีตผู้ประสานงาน พธม. จำเลยที่ 6 ซึ่งปัจจุบันเป็น ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ลำดับที่ 7 และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อดีตแกนนำ พธม. จำเลยที่ 5 ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย จะไม่สามารถลงเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ได้ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 98 (6) และแม้จะพ้นโทษแล้วก็ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นระยะเวลา 10 ปี ตามมาตรา 98 (7)

ผู้สื่อข่าวยังรายงานถึงคดีชุมนุมของกลุ่ม พธม. (เสื้อเหลือง) ในสำนวนอื่นด้วยว่า 1.คดีหมายเลขดำ อ.973/2556 ที่ฟ้องปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 ยื่นฟ้องอดีตแกนนำและแนวร่วม พธม. รวม 98 ราย ซึ่งยังอยู่ระหว่างสืบพยานโจทก์ของศาลอาญา โดยล่าสุดกำหนดวันที่ 13 มี.ค.นี้

2.คดีแพ่งหมายเลขดำ พ.6453 , 6474/2551 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้อดีตแกนนำและแนวร่วม พธม. 13 ราย ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาทแล้ว ซึ่งคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว กระบวนการอยู่ระหว่างรอบังคับคดี

3.คดีอาญา หมายเลขดำ อ.3973/2558 คดีชุมนุมดาวกระจาย ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 ยื่นฟ้อง อดีตแกนนำและแนวร่วม พธม. รวม 9 ราย โดยศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.62 ที่ผ่านมา

4.คดีอาญา หมายเลขดำ อ.3881/2559 คดีล้อมรัฐสภาวันที่ 7 ต.ค.51 ซึ่ง ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 4 มี.ค. นี้ เวลา 09.00 น.

นอกจากนี้ ใส่วนคดีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือเสื้อแดง ก็ประกอบด้วย 1.คดีอาญา หมายเลขดำ อ.2542/2553 คดีก่อการร้ายชุมนุมไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะปี 2553 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้อง แกนนำและแนวร่วม นปช. รวม 24 ราย คดีอยู่ระหว่างศาลอาญา นัดสืบพยานจำเลยนัดแรก ในวันที่ 21 ก.พ.นี้

2.คดีอาญา หมายเลขดำ อ.968/2561 คดีชุมนุมไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ปี 2552 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง แกนนำและแนวร่วม นปช. รวม 10 ราย ข้อหายุยงปลุกปั่น ม.116 ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 27 พ.ค.นี้

3.คดีอาญา หมายเลขดำ อ.3531/2552 คดีชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 ฟ้องแกนนำและแนวร่วม นปช. (ชื่อเดิม นปก.) รวม 7 ราย ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.60 จำคุกจำเลยที่ 1, 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3 (จำเลย 1, 4-7 ยื่นประกันตัวระหว่างฎีกา) โดยพนักงานอัยการคดีอาญา 10 ได้แยกฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กับนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำ อ.2799/2557 อยู่ระหว่างพิจารณาของศาล