'สมคิด' กระทุ้งเบิกจ่ายโครงสร้างพื้นฐานโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

'สมคิด' กระทุ้งเบิกจ่ายโครงสร้างพื้นฐานโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

“สมคิด” กระทุ้งเบิกจ่ายโครงสร้างพื้นฐานโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง จี้ประมูล 21 โปรเจ็กต์ “อาคม” รับลูกทยอยชงเข้า ครม. ขีดเส้นแล้วเสร็จภายใน ก.พ. - มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.62 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและติดตามงานสำคัญของกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่า เนื่องจากโครงการใหญ่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1–2 ของปีนี้ได้ การลงทุนคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ แต่พบว่าการเบิกจ่ายในช่วงที่ผ่านมาชะลอไป ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงคมนาคมช่วยกระตุ้นเบิกจ่ายแต่ละโครงการสำคัญ โดยโครงการเร่งด่วน เช่น การจัดหาฝูงบินล็อตใหม่ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะจัดหาล็อตแรก 25 ลำ ขอให้เร่งดำเนินการให้ชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานและชิ้นส่วนอากาศยาน (MRO) ร่วมกับบริษัทแอร์บัส ขอให้ดำเนินการโดยเร็ว ขณะที่โครงการประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ก็พบว่ามีเอกชนรายใหม่มาซื้อซองเพิ่มเติม เชื่อว่าจะไปได้ดี ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงคมนาคมเดินหน้างานตามแผน ไม่ให้มีการชะลอ

“ภาวะแบบนี้ ช่วงที่ต่างชาติอยากเห็นการเลือกตั้ง การส่งออกของโลกไม่ค่อยดี เราต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ต้องเร่งเต็มที่ในช่วงครึ่งปีแรก เราจะต้องประคองตัวเองให้ผ่านพ้น และเมื่อมีการเลือกตั้งแล้วเสร็จ เราก็จะเดินไปต่อไป”

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงฯ จะเร่งดำเนินงาน ผลักดันโครงการสำคัญที่อยู่ในแผนทั้งหมดเข้าสู่ขั้นตอนคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้ โดยโครงการเร่งด่วน เบื้องต้นมีจำนวน 21 โครงการ ทางอากาศ 1. การจัดหาฝูงบินล็อตใหม่ จำนวน 38 ลำ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 2.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานและชิ้นส่วนอากาศยาน (MRO) ของการบินไทย 3.เร่งสร้างอาคารแซทเทิลไลท์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 4.ขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่

ทางน้ำ 1. ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ปัจจุบันเปิดขายซองรอบใหม่แล้ว มีเอกชนซื้อซองรายใหม่ 9 ราย และรายเดิม 25 ราย รวม 34 ราย คาดว่าภายใน มี.ค.นี้จะสรุปได้ 2. ขยายขีดความสามารถท่าเรือคลองเตย 3. ปรับปรุงท่าเรือระนอง ส่วนทางราง 1. รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ไทย–จีน ส่วนของงานก่อสร้าง สัญญา 2 ซึ่งขณะนี้ได้ตัวผู้ชนะการประมูลแล้ว จะเร่งลงนามสัญญาภายใน 1–2 สัปดาห์นี้

ขณะที่รถไฟทางคู่ คาดว่าภายในเดือน ก.พ.-ต้นเดือน มี.ค.นี้ จะเสนอ ครม.พิจารณา รถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่-นครพนม วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท และทางคู่อีก 7 โครงการที่เหลือก็จะทยอยเสนอ ครม.ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ ประกอบไปด้วย ทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 3.7 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 2.6 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 8.1 พันล้านบาท ทางคู่ช่วงปากน้ำโพ–เด่นชัย 6.2 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 2.4 หมื่นล้านบาท ทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา 5.7 หมื่นล้านบาท และ ทางคู่ช่วงเด่นชัย - เชียงใหม่ 5.9 หมื่นล้านบาท

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 2 โครงการ เร่งด่วน คือ รถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ และรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน–ศาลายา และตลิ่งชัน-ศิริราช ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอปรับแก้ข้อมูลช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช หากแล้วเสร็จก็จะเสนอขอ ครม.พร้อมกันทั้ง 3 ตอน เช่นเดียวกับ โครงการทางพิเศษ พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านทิศตะวันตก ก็จะเร่งประกวดราคาภายในเดือน ก.พ.นี้