ดีแทคจุดพลุ ‘แพลตฟอร์มอีวี’ ดีเดย์ให้บริการปลายพ.ค.

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า ขยายธุรกิจสู่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า(Electric Vehicle Connectivity Platform) หรือ อีวี โดยร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำหลายแบรนด์ของโลก และพันธมิตรคือ บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้จัดงาน EV Expo และเป็นตัวกลางประสานงานกับผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมด้วยบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เจ้าของตู้บุญเติมทำหน้าที่จุดให้บริการชาร์จมอเตอร์ไซค์อีวี 

ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม EV Connectivity จะเป็นผู้ที่เชื่อมโยงผู้ผลิตรถไฟฟ้าอีวี บริษัทประกันบริษัทเช่าซื้อ สถาบันการเงินและสินเชื่อ บริการเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ บริการการรับชำระเงินผ่านระบบบิลลิ่งของดีแทคและพันธมิตร รวมถึงบริการซ่อมบำรุงหลังการขายโดยการเข้าถึงบริการต่างๆ ทำผ่านการเชื่อมต่อซิมดีแทคไตรเน็ต 

“ในเบื้องต้นเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนพ.ค.ต้นเดือนมิ.ย. เราจะพยายามทำให้ราคาจับต้องได้มากที่สุด ส่วนว่าโมเดลการตลาด การขาย การเช่าใช้แบตเตอรี่จะเป็นอย่างไรยังอยู่ระหว่างการพูดคุยพิจารณาความเหมาะสมยังไม่ตายตัว”

บริการทั้งหมดถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกันผ่านแอพพลิเคชั่นเดียว นอกเหนือจากการใช้งานบนฟีเจอร์การขับขี่ปกติ เช่นเช็คสถานะแบตเตอรี่ชำระค่าเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ การแจ้งระยะทาง และระบบอำนวยความสะดวกในการค้นหาเส้นทางการเดินทาง ระบบกันขโมย การกำหนดความเร็วสูงสุดแล้ว ยังสามารถชำระค่าเช่าซื้อการรับประกันได้ ทั้งดีแทคและกลุ่มพันธมิตรได้จัดเตรียมความพร้อมด้านบริการหลังการขายและการซ่อมบำรุงอย่างครบวงจร

เธอกล่าววว่า ดีแทคและฟอร์ทสมาร์ทจะร่วมกันเปิดจุดบริการชาร์จไฟฟ้าและเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านตู้อัจฉริยะในพื้นที่ทดลองให้บริการในกรุงเทพฯเฟสแรกเริ่มที่ 10 จุด และจะขยายจุดบริการเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ส่วนเอ็มวิชั่นเป็นตัวกลางประสานงานกับผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยดีแทคพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำที่จะเข้ามาร่วมมือกันเพื่อช่วยผลักดันให้ไทยเกิดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมอีวีในเฟสต่อไป

“เรามุ่งสร้างธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นมากกว่าผู้ให้บริการมือถือ Go Beyond Basic Connectivity ด้วยการจับมือพันธมิตรชั้นนำ สร้างแพลตฟอร์มการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอีวี ครบวงจร ช่วยลดมลพิษ ดันไทยก้าวสู่การเป็นฮับ EV Value Chain”

ปัจจุบัน 36% ของมลภาวะในประเทศไทยมาจากยานพาหนะโดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ แต่ละปีไทยมีความต้องการมอเตอร์ไซค์กว่า 2 ล้านคันต่อปีนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอันดับ 12 ของโลก 

อย่างไรก็ตาม การผลักดันการใช้งานอีวียังค่อนข้างล้าหลัง ปัจจัยมาจากทั้งเรื่องกำแพงภาษีและที่ชาร์จ ดังนั้นต้องหาทางที่ก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปให้ได้ ส่วนว่าจะแจ้งเกิดอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อใดคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีเนื่องจากความต้องการที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ

สำหรับผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม EV Connectivity ของดีแทคจะได้ประโยชน์ในการใช้งานที่สำคัญดังนี้คือ 1. ช่วยประหยัดค่าน้ำมันค่าบำรุงรักษาได้มากกว่าจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันโดยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าถึง 50% 2. สะดวกสบายด้วยการมีแอปพลิเคชันในการควบคุมขับขี่ได้ง่ายไม่เกิดฝุ่นควันพิษไม่มีเสียงดังบำรุงรักษาง่ายรวมถึงสามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้บนแอปพลิเคชั่นเดียว 3. มีพันธมิตรผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ทั้งจากผู้ผลิตแบรนด์จีนและยุโรปที่พร้อมใช้ด้วยแอพพลิเคชันเดียวกัน

“การให้บริการแพลตฟอร์ม EV connectivity ในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกในการขยายธุรกิจที่เป็นมากกว่าผู้ให้บริการมือถือของดีแทคเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการกลับมาเติบโตในธุรกิจอีกครั้ง รถมอเตอร์ไซค์อีวีทั้งหมดภายใต้แพลตฟอร์มของดีแทคจะเริ่มทำตลาดเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายนโดยจะมีรุ่นที่เข้าร่วมเบื้องต้น 3-5 รุ่นโดยดีแทคมีแผนที่จะวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้”

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเห็นถึงโอกาสในตลาดอีวีของไทยโดยจะเป็นผู้จัดงาน Bangkok EV Expo ซึ่งเป็นงานโชว์-จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและการความร่วมมือกับดีแทคและบุญเติม

เขากล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสนับสนุนบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสองทางได้แก่ทางด้านการจัดการและการร่วมมือกับพันธมิตรจำหน่ายยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำคัญยังจะช่วยลดปัญหาฝุ่นขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชนและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวราคาเริ่มต้นอยู่ระหว่าง 4 หมื่นจนถึงแสนกว่าบาท 

นายพงษ์ชัย อมตานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทฟอร์ทสมาร์ทเซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ FSMART กล่าวว่า บริษัทจะเข้าไปดูแลในส่วนของการให้บริการสถานีชาร์จและเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผ่านตู้อัจฉริยะที่เตรียมให้บริการในอนาคตตามสถานที่และจุดบริการต่างๆอาทิแหล่งชุมชนสถานีบริการน้ำมันฯลฯ

โดยอาศัยจุดแข็งการบริหารจัดการด้านทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม พร้อมขยายจุดให้บริหารจากตัวแทนที่มีอยู่ทั่วประเทศซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์จากการพัฒนาที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบการติดตั้งบริเวณออฟฟิศคอนโด (Station) และการติดตั้งในบ้านพักอาศัย (Wall type) และเตรียมติดตั้งเพื่อให้บริการตามสถานที่ต่างๆ ภายในปีนี้