STANLY - ซื้อ

STANLY - ซื้อ

แสงสว่างผ่านหมอกเมฆ

เราได้ปรับลดการประมาณการยอดขาย ในปีบัญชี 2562-63 สำหรับ STANLY แต่ยังคงคาดการณ์การเติบโตของยอดขายอยู่ในระดับที่ดีหนุนโดยยอดสั่งซื้อจำนวนมาก และการขยายกำลังการผลิตและการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 256 บาท (ปรับเป้าหมายการลงทุนมาเป็นในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. ปีบัญชี 2563) อ้างอิงจากค่าเฉลี่ย PER ในระยะยาวที่ 10.2 เท่า

อุปสงค์ในประเทศและโมเดลระดับทั่วโลกหนุนการเติบโตของยอดขาย

ยอดขายของ STANLY ในปีบัญชี 2562 (เม.ย. ปี 2561- มี.ค. 2562) คาดว่าอยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านบาท เติบโต 10.3% YoY สนับสนุนโดยการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์/รถกระบะแข็งแกร่งในปี 2561 อยู่ที่ 2.17 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 9% YoY (การผลิตรถมอเตอร์ไซอยู่ที่ 2.06 ล้านคัน สูงขึ้นเพียง 0.4% YoY) การเติบโตของกำลังการผลิตรถยนต์ทั่วทั้งอุตสาหกรรมน่าจะยั่งยืนในช่วงต้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม สำหรับปีปฏิทินปี 2562 เราประเมินว่าปริมาณการผลิตรถยนต์/รถกระบะของไทยจะอยู่ที่ 2.15 ล้านคัน ลดลง 0.8% YoY แม้จะมีแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรม แต่เราเชื่อว่า บริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตในปีบัญชี 2563ที่ 6.8% หนุนโดยยอดสั่งซื้อจำนวนมากจากโมเดลระดับทั่วโลก

การลงทุนจำนวนมากในกำลังการผลิตใหม่

งบประมาณการขยายกำลังการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท สำหรับโรงงาน Lamp-7 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท (กำลังการผลิตใหม่คาดว่าเริ่มดำเนินการเชิงพานิชย์ในช่วงต้นปีบัญชี 2563) ส่วนที่เหลือจะเป็นงบประมาณสำหรับโรงงาน Lamp-8 ซึ่งจะขยายกำลังการผลิตอีกราวๆ 10% เมื่อเริ่มต้นการผลิตในช่วงปลายปีบัญชี 2564 โรงงาน Lamp-7.5 และ Lamp8 สามารถรองรับการผลิตโมเมลระดับโลกได้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นหดตัวลง20bps มาอยู่ที่ 18.3% ในปีบัญชี 2562 และลดลงต่อเนื่องอีก30bps มาอยู่ที่18% ในปีบัญชี 2563 เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ว่างเปล่าจากโรงงานใหม่และอัตราการสูญเสียในการผลิตที่สูงในช่วงเริ่มต้นการผลิต

การเติบโตแข็งแกร่งผ่านการวิจัยและพัฒนา

ศูนย์วิจัยและพัฒนาของ STANLY ช่วยให้บริษัทก้าวหน้าล้าอุตสาหกรรมบริษัทเริ่มใช้วิธีการพัฒนากระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น (เช่นหลอดไฟ LED) ราคาขายและอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทย่อยของ STANLY สามารถทำกำไรได้ในปัจจุบัน ดังนั้นเราคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 60 ล้านบาทต่อปีเริ่มในปีบัญชี 2562

สิ่งที่สะท้อนอยู่ในราคา

เราปรับลดการประมาณการยอดขาย 4.3% มาอยู่ที่ 1.46 หมื่นล้านบาทสำหรับปีบัญชี 2562 และ 2.6% มาอยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท สำหรับปีบัญชี 2563 เพื่อสะท้อนความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลกและแนวโน้มอุตสาหกรรมที่อ่อนแอแต่การประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นของเรา สำหรับทั้งปีในปีบัญชี 2562 และ 2563 ยังคงอยู่ที่ 18% และเราได้สะท้อนรายได้จากเงินปันผลจากบริษัทย่อยราวๆ 60 ล้านบาทต่อปีเข้าสู่การประมาณการของเรา เนื่องจากการปรับลดการคาดการณ์ยอดขายที่ลดลงของเรานั้นกลบกับผลกระทบของรายได้จากเงินปันผลใหม่ การคาดการณ์กำไรสุทธิถูกปรับลดลง 2.6% มาอยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท สำหรับปี 2562 และ 11.6% มาอยู่ที่ 1.93 พันล้านบาท สำหรับปี 2562 นอกจากนี้เรายังได้ปรับเป้าหมายการลงทุนของเราเป็นสิ้นเดือน มี.ค. ปี 2563 ด้วยราคาเป้าหมายที่ 256 บาท อ้างอิงค่าเฉลี่ย PER ในระยะยาวของ STANLY ที่ 10.2 เท่า เรายังคงแนะนำ “ซื้อ”