"จุรินทร์" มั่นใจปักธงราชบุรีสำเร็จ ไม่จี้ "ประยุทธ์" ออก แต่ขอให้ทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลรักษาการ ชี้เงินใต้โต๊ะทำดัชนีคอรัปชั่นไทยทรุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ได้เปิดตัวผู้สมัครจังหวัดราชบุรี ที่เขาแก่นจันทร์ อ.เมือง จังหวัดราชบุรี พร้อมขึ้นรถแห่รอบเมืองราชบุรี และเดินเยี่ยมประชาชนในตลาดเขตเทศบาลเมืองเขตเลือกตั้งที่ 1 และพื้นที่ อ.บ้านโป่ง ในเขตเลือกตั้งที่ 4
ทั้งนี้ ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ในจังหวัดราชบุรีทั้งหมด ประกอบด้วย เขต 1 นางกัลยา ศิริเนาวกุล , เขต 2 พ.ต.ท.สันทัด เจียมสกุล , เขต 3 นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ , เขต 4 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ และ เขต 5 นายชัยโรจน์ เอกอัครอัญธรณ์
นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะปักธงพรรคที่ราชบุรีสำเร็จ ภายใต้การทำงานหนักอย่างต่อเนื่องของท่านอดีตเลขาธิการพรรค”เฉลิมชัย ศรีอ่อน” แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาปี54 พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้ที่นั่งเลยแม้แต่ที่นั่งเดียวในจำนวน 5 ที่นั่งในจังหวัดราชบุรี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้ สส.เขต ปักธงในราชบุรีสำเร็จจำนวนหนึ่งแน่นอน และจะได้คะแนนรวมทั้งจังหวัดราชบุรี เพิ่มขึ้นด้วย จากที่เคยได้ปี 54 จำนวน 213,252 คะแนน เพื่อไปเป็นคะแนนบวกให้กับจำนวน สส.รวมของพรรคตามระบบเลือกตั้งแบบใหม่ โดยมีเหตุผลทั้ง 2 ข้อคือ ผู้สมัครของพรรคทุกเขตได้ทำการบ้านมาต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับนโยบายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมของพรรคในเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งเป็นปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่สร้างความทุกข์ให้กับประชาชนอยู่ในขณะนี้ ทั้งนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ประกันรายได้ผู้ใช้แรงงานปีละไม่น้อยกว่า 120,000 บาทและประกันรายได้คนจน เดือนละไม่น้อยกว่า 800 บาทโดยจะยังคงบัตรสวัสดิการคนจนไว้แต่จะโอนไปให้เป็นเงินสดแทน ซึ่งตนเชื่อว่าจะโดนใจประชาชนและจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจฐานรากกระเตื้องขึ้นมาได้ในเวลารวดเร็ว ควบคู่ไปกับการสร้างคนที่มีคุณภาพด้วยการพัฒนาการศึกษาเพื่อป้อนความต้องการของตลาดแรงงานโดยการต่อยอดนโยบายเรียนฟรีจากอนุบาลถึง ม.6 ของพรรคที่ตนเคยทำมาไปเป็นอนุบาลถึงระดับ ปวส.
สำหรับกรณี 4 รัฐมนตรีที่เพิ่งลาออกนั้นนายจุรินทร์กล่าวว่าก็ดีแล้วจะได้ไม่ผิดคำพูด ส่วนกรณีของพลเอกประยุทธ์นั้นตนไม่เรียกร้องให้ต้องออก แต่ขอให้ปฏิบัติหน้าที่เหมือนรัฐบาลรักษาการในระหว่างการเลือกตั้ง คือไม่โยกย้ายข้าราชการเพื่อผลทางการเมือง ไม่เริ่มโครงการใหม่ที่มีผลผูกพันรัฐบาลชุดต่อไปและไม่ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใด และ พล อ. ประยุทธ์จะวางอนาคตเสนอตัวเป็นนายกคนในเหมือนที่คาดหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของท่าน
ส่วนดัชนีคอรัปชั่นที่อันดับไทยแย่ลงไปอีกนั้น สะท้อนให้เห็นว่าคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นยุค”ประชาธิปไตยทุจริต”บางยุคหรือในยุคของการยึดอำนาจที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จก็ตาม ซึ่งถ้าดูลึกลงในรายละเอียด จะเห็นว่าเป็นเพราะการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใช้อำนาจรัฐยังขาดความโปร่งใส ปัญหาเงินใต้โต๊ะยังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศซึ่งต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะส่งผลกระทบต่อหลักธรรมาภิบาลและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนจากทุกประเทศ"