The Oqposite บ้านร้างอันแสนอบอุ่น

The Oqposite บ้านร้างอันแสนอบอุ่น

The Oqposite สมชื่อจริงๆ สำหรับคาเฟ่ที่ตั้งใจออกแบบให้ดูภายนอกเหมือนบ้านร้างที่สร้างไม่เสร็จ ตรงกันข้ามกับภายในที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนอบอุ่นอบอวลไปด้วยกลิ่นกรุ่นของกาแฟ

เรื่องของความตรงกันข้ามเกิดขึ้นจาก “ความเหมือน” (อย่างเดียว)ของสองพี่น้องแนท -ปิยมน บันทัดทอง กับแนน -ดลฤดี บันทัดทอง ที่เกิดอาการเบื่อหน่ายจากงานประจำพอดีเลยเกิดความคิดที่อยากจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ในเมื่อแนทมีประสบการณ์ในเรื่องอาหารการครัวทั้งในและต่างประเทศ แนนก็ทำงานสายมาร์เก็ตติ้งมาโดยตลอด นำจุดแข็งมารวมกันเปิดร้านกาแฟในพื้นที่บ้านของตัวเองกันดีกว่า

ความตรงกันข้าม คือ แนวคิดหลักของ The oqposite ที่นำตัว P มากลับด้าน ตั้งแต่สไตล์ของร้านที่ดูเหมือนสร้างไม่เสร็จ แต่ภายในเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันของคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตอยู่กลางบ้าน อิเลคโทนรุ่นเก๋า ตู้หนังสือมรดกคุณย่าที่ประกอบไปนวนิยายชุดคลาสสิกเพชรพระอุมาพิมพ์ครั้งแรก เป็นต้น

“สิ่งที่หรูที่สุดในร้านนี้คือห้องน้ำ” แนนเล่ายิ้มๆ เมื่อกล่าวถึงที่มาของร้านที่รื้ออาคารไม้หลังเก่าที่ใช้เป็นที่จอดรถแล้วนำไม้เดิมมาสร้างเป็นคาเฟ่ที่ให้อารมณ์ขรึมขลังได้ดังใจ

ร้านกาแฟทีมีอาหารเล็กๆน้อยๆ คือ ความตั้งใจแรกแต่เริ่ม พอร้านเปิดเมื่อกลางปีที่ผ่านมาผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้ามเพราะว่าลูกค้าเรียกร้องอาหารมากกว่า ดิ อ๊อบโพสิท จึงต้องเปลี่ยนแผน

“เมนูเด่นร้านเราส่วนใหญ่เกิดจากความบังเอิญ” แนทเล่าอย่างอารมณ์ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรืออาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน

Oqposite Berry (155 บาท) เกิดจากการทดลองนำชากับกาแฟมารวมกันแล้วได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจ ด้วยการนำชาเบอร์รี่ที่มีความหอมและรสเปรี้ยวมาผสมกับกาแฟโคลด์บรูว์(เมล็ดกาแฟเอธิโอเปียเบลนด์กับบราซิล) โดยทำให้รสของชาอยู่ด้านล่างรสขมของกาแฟอยู่ด้านบน เวลาดื่มแนะนำให้จิบจะได้รสขมของกาแฟก่อนแล้วตามด้วยรสเปรี้ยวนิดๆของชาเบอร์รี่ เป็นเครื่องดื่มเย็นที่คลายร้อนได้อย่างมีเสน่ห์ทีเดียว

ส่วนอาหารจานซิกเนเจอร์ตั้งใจว่าจะมีเพียงของกินเล่นอย่างทาโก้ต้มยำกุ้ง(190 บาท)แป้งตอติลญ่าอบกรอบราดด้วยซอสต้มยำกุ้งเข้มข้นเสิร์ฟพร้อมมะนาและพริกทอด(สุดแซ่บ) กลายเป็นต้องเพิ่มเมนูข้าวมันกุ้งสูตรคุณย่า(180 บาท) อาหารที่ไม่เคยคิดว่าจะขายแต่กลายเป็นเมนูขายดีของร้านไปแล้วตอนนี้

“เมนูนี้กินมาตั้งแต่จำความได้ อาหารสูตรเก่าแก่ของตระกูล ใช้มันกุ้งล้วนๆนำมาผัดกับรากผักชีกระเทียมพริกไทย เสิร์ฟกับไข่ต้มยางมะตูม กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดตัดเลี่ยน” แนทบอกกับเรา

  สปาเกตตีพริกระเทียมเบคอน (220 บาท) เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เราชอบใจเพราะว่ามีทั้งความเผ็ดของพริกทอด ความเค็มของเบคอน และความหวานของมะเขือเทศอบแห้งที่แนทเล่าว่านำไปเชื่อมก่อนค่อยตากแห้งจึงได้รสหวานหอมแถมยังโรยพาเมซานชีสเพิ่มความมันไปอีก

ถ้าใครชอบความเข้มข้นอีกระดับของสปาเกตตีที่มีทั้งนมและครีมตัดกับรสชาติเผ็ดร้อนเปรี้ยวแซ่บของต้มยำกุ้ง แนะนำสปาเกตตีต้มยำกุ้ง (250 บาท) ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคลอเรสเตอรอลลุยเลยค่ะ

มาถึงของหวานกันบ้างร้านกาแฟก็ต้องคู่กับเค้กหน้าตาน่ารัก ทุกวันจะมีเค้ก 3-4 ชนิดให้เลือกรับประทานกันไป มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่ช้อตเค้ก คาราเมลพุดดิ้ง เรดเวลเว็ต และ ช็อกโกแลตทาร์ต หมุนเวียนกันไป

ดิ อ๊อบโพสิท ซ่อนตัวอยู่หลังตึกแถวถนนพะเนียง เยื้องๆกับฌาปนสถานวัดโสมนัสวิหาร เห็นป้ายชื่อร้านติดเหนือประตูสีเทาเลี้ยวเข้าไปได้เลย ภายในมีที่จอดรถได้ประมาณ 20 คัน ร้านเปิด 9.30 -20.00 น.ปิดวันอังคาร อยากชิลล์ๆมาสายๆและหลังบ่ายสองเป็นต้นไป มื้อเที่ยงวันทำงานค่อนข้างแน่นนิดหน่อย เพราะคนทำงานมาอุดหนุนกันในชั่วโมงเร่งด่วน โทร. 08 9523 9824