ยิ่งเปิดเร็วก็ยิ่งช้ำเร็ว

ยิ่งเปิดเร็วก็ยิ่งช้ำเร็ว

แม้ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับวันเลือกตั้งที่จะมาถึง เนื่องจากอยู่ระหว่างรอให้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง (พ.ร.ฎ.) ส.ส.ประกาศใช้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศในสัปดาห์นี้

แต่ทว่า ขณะนี้เราจะได้เห็นภาพความเคลื่อนไหของบรรดาพรรคการเมืองในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รวมถึง “ขุนพล” และ “แม่ทัพ” ที่จะมานำทัพที่จะมาสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นหลายพรรคเริ่มเปิดตัวบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตเพื่อชิงเก้าอี้นายกฯรัฐมนตรี

ไม่เว้นแม้แต่ “พรรคเพื่อไทย” ที่ขณะนี้ปรากฏชื่อ “2 ตัวเต็ง” ที่จะมาชิงตำแหน่งนายกฯคือ “คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรค และ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเจ้าของฉายา “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี”

ยิ่งเปิดเร็วก็ยิ่งช้ำเร็ว

โดยเฉพาะในส่วนของ “ชัชชาติ” ที่ได้รับแรงหนุนจาก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดที่ถึงขั้นต่อสายตรงโน้มน้าวให้มาลงเล่นการเมืองแม้ภายหลังเจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นเพียง“ความพยายามเสี้ยมให้ยุบพรรคอีกรอบเท่านั้น”

หรือในส่วนของพ่อบ้านพรรคอย่าง “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรค ที่ออกมายืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่มีความเป็นจริงแต่เป็นการแสดงถึงความพยายามที่จะกล่าวหาว่าพรรคถูกครอบงำเพื่อนำไปสู่การยุบพรรคในที่สุด

แต่ทว่า ด้วยความใกล้ชิดในฐานะเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บวกกับการกระแสในโลกโซเชียล ซึ่งมีการมองว่า “ชัชชาติ” เป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า “ใช้สื่อเป็น” รวมทั้งการคาดการณ์ว่า หากดัน “ชัชชาติ” ชิงตำแหน่งดังกล่าวอาจได้ส.ส.เกิน200 ที่นั่ง(จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่190-200 ที่นั่ง) นี่จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ถูกมองว่า เพื่อไทยอาจเลือกที่จะปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย

ยิ่งเปิดเร็วก็ยิ่งช้ำเร็ว

ทั้งนี้หากมองในแง่ของ “สปิริต” แล้ว ขณะนี้ทั้ง2คนจึงยังไม่มีการประกาศตัวชิงตำแหน่งดังกล่าว โดยในส่วนของ “คุณหญิงหน่อย” ก่อนหน้านี้ออกตัวสนับสนุน “ชัชชาติ” ว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ ส่วนตัวเองขอเป็น “เจเนอรัลเบ๊” หรือผู้จัดการทีมที่คอยวางแผนเท่านั้น

ขณะที่ “ชัชชาติ” เองก็มักจะออกตัวในทำนองว่าคุณหญิงหน่อยเหมาะสมเป็นนายกฯ เนื่องจากสังคมรู้จักมากกว่าเพราะในส่วนของชัชชาติเอง

แต่ทว่า หากมองในแง่ของยุทธศาสตร์แล้วการเก็บตัวผู้นำไว้จนถึงวันเลือกตั้งน่าจะส่งผลดีกับพรรคมากกว่า เพราะหากรีบเปิดเปิดตัวผู้นำพรรคสิ่งที่ตามมาคือ การตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมือง

ดังนั้น หากพรรคเลือกที่จะเปิดตัวผู้นำ โดยเฉพาะในส่วนของ“ชัชชาติ”นั่นย่อมเป็นการยอมรับแบบกลายๆว่ากระแสไม่เอาหญิงหน่อยยังคงมีอยู่ในขณะนี้

การดึงเกมเปิดตัวผู้นำของพรรคเพื่อไทยอาจมองในแง่ที่ว่า “ยิ่งเปิดเร็วก็ยิ่งช้ำเร็ว” แต่อีกมุมหนึ่งที่ต้องระมัดระวัง และไม่ควรมองข้ามคือ ความไม่ชัดเจนตรงนี้อาจส่งผลในแง่ความรู้สึกของบรรดาแฟนคลับที่สนับสนุนว่าท้ายที่สุดแล้วพรรคจะเอาอย่างไรกันแน่!!