จีน-เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตประชากรเกิดใหม่

จีน-เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตประชากรเกิดใหม่

อัตราการเกิดใหม่ของประชากรในสองประเทศนี้ถือว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

วินด์ อินฟอร์เมชัน บริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินของจีน รายงานว่า ชาวจีน ให้กำเนิดบุตรจำนวน 15.23 ล้านคนในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2504 ซึ่งในปีดังกล่าว มีทารกเกิดจำนวน 11.87 ล้านราย อีกทั้งอัตราการเกิดในปีที่แล้วต่ำกว่าปี 2560 ราว 11.6%

ขณะเดียวกัน จีนมีจำนวนประชากร 1.395 พันล้านคนในปีที่แล้ว มากกว่าปี 2560 ราว 3.81%

รัฐบาลจีนคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรจะแตะระดับสูงสุดที่ 1.442 พันล้านคนในปี 2572 ก่อนที่จะลดลงหลังจากนั้น

ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ ประสบปัญหาในการกู้วิกฤตประชากรในประเทศเช่นกัน  โดยขณะนี้เกาหลีใต้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำสุดในโลก

ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกที่อัตราการเกิดของประชากรอยู่ที่ 0.95 ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่า 1 น้อยกว่าเป้าหมายที่ 2.1 กล่าวคือ ผู้หญิง 1 คน จะต้องให้กำเนิดบุตรอย่างน้อย 2 คน และเป็นทิศทางขาลงมาตั้งแต่ปี 2544

ปัจจัยสำคัญของอัตราการให้กำเนิดบุตรที่ต่ำลงในเกาหลีใต้ ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย ได้แก่ ต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตรที่สูง ปริมาณและคุณภาพของสถานรับเลี้ยงเด็กที่จำกัด และจำนวนชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานในเกาหลีใต้​

ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ ทุ่มงบประมาณราว 121,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา เพื่อหวังเพิ่มอัตราการเกิดในประเทศให้มากขึ้นตามเป้า แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ