AUCT - ซื้อ

AUCT - ซื้อ

คงประมาณการปี 61 แต่ปรับคาดการณ์ปี 62 ลงเล็กน้อย

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • กำไร 9M61 เท่ากับ 119.5 ลบ. เติบโต 3%YoY : ผลการดำเนินงานเติบโตตามยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ 9M61 +20.3%YoY (Figure1) ประกอบกับแนวโน้ม NPLs ที่ปรับตัวสูงขึ้น (Figure2) ส่งผลให้สถาบันการเงินยึดรถและส่งเข้าสู่ตลาดการประมูลมากขึ้น นอกจากนี้ การประชาสัมพันธ์ทาง Social Media เช่น Facebook ,Line ,Website และ Application บนโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้มีผู้เข้ามาประมูลเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ นอกจากนี้ %GPM ยังปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.9% จาก 9M60 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 45.1% เนื่องจากการเติบโตของรายได้ ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ โดยกำไร 9M61 เท่ากับ 119.5 ลบ. คิดเป็น 72.5% ของประมาณกำไรทั้งปี 61
  • คงประมาณการแนวโน้มกำไร 4Q61 และกำไรทั้งปี 61 : เราคงประมาณการกำไร 4Q61 ราว 45.6 ลบ. +72.3%YoY เนื่องจาก ตามยอดขายรถใหม่ในประเทศซึ่งเดือน ต.ค-พ.ย.61 เติบโต 8%YoY (Figure1) แต่อาจหดตัว 8.5%QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจรถมือสอง ที่จะชะลอการซื้อ-ขาย เพราะความกังวลว่ารถจะตกรุ่น ขณะที่คงประมาณการรายได้ และกำไรปี61 ราว 660.2 ลบ. +17%YoY และ 165.2 ลบ. +58.9%YoY ตามลำดับ ด้วยสมมติฐาน %GPM และ %SG&A ราว 51.3% และ 20% ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นจากปี 60 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 45.0% และ 21.6% ตามลำดับ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ช่วยให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
  • ปรับประมาณการผลประกอบการปี 62 ลงเล็กน้อย จาก 195.9 ลบ. สู่ 191.7 ลบ. ลดลง 1% แต่ยังคงเติบโต 16.5%YoY : เราปรับประมาณการรายได้จาก 779.1 ลบ. ลงสู่ 739.5 ลบ. ลดลง 5.1% แต่ยังคงเติบโต 12%YoY และปรับประมาณการกำไรปี 62 จาก 195.9 ลบ. ลงสู่ 191.7 ลบ. ลดลง 2.1% แต่ยังคงเติบโต 16.5%YoY เนื่องจาก เมื่อราวปลายปี 61 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายรถมือสอง ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยควบคุมเรื่องของการชำระเงิน การทำสัญญา การคืนเงินจองในกรณีที่ผู้บริโภคกู้เงินไม่ผ่าน ซึ่งจะมีการระบุเป็นสัญญาไว้ชัดเจน พร้อมกับระบุแนวทางที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษ ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้การธุรกรรมการซื้อขายมีระยะเวลายาวนานขึ้นจาก 30 วัน เป็น 45 วัน อย่างไรก็ตาม ผบห.ให้ความมั่นใจว่า ประเด็นดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เรายังคงสมมติฐาน %GPM ที่ราว 51.3% แต่ปรับคาดการณ์ %SG&A ลดลงจากราว 20% ลงสู่ 19% เนื่องจากปี 62 บริษัทฯจะเน้นกลยุทธ์การบริหารภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมปี 62 ลงสู่ 7.60 บาท จากเดิม 8.90 บาท : เราประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospective PE ที่ 21.74x (-1.5SD) ปรับลดลงจากเดิมที่ระดับ 25x เนื่องจากเรามองว่าปี 62 เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า (โดยธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจไทยปี 62 โตเพียงราว 3.8%) ขณะที่เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.35 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 62 เท่ากับ 7.6 บาทต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง

     i) อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือยอดขายรถใหม่ภายในประเทศหดตัว
    ii) NPL สินเชื่อเช่าซื้อ หรือรถยนต์ ปรับตัวดีขึ้น
   iii) กลยุทธ์จับกลุ่ม End User ไม่เป็นไปตามที่คาด