ปอท.เตือน 2 ข่าวมั่ว ระวังอย่าแชร์

วันที่ 17 ม.ค. ที่ บก.ปอท. จากกรณีที่โลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์ข่าวเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน  มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง และหันมาสวมหน้ากาก N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นละลองระดับ PM 2.5 ได้ ซึ่งต่อมาเว็บไซต์ข่าวปลอม ได้มีการนำเสนอข่าวที่มีข้อมูลเป็นเท็จ  ซึ่งมีการอ้างว่า มีประชาชนได้รับฝุ่น PM2.5 จนเกิดอาการผิวหนังพุพอง และช็อคเสียชีวิตสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่รับข่าวสาร จนทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขฯ ต้องออกมาแจ้งเตือนว่าเป็นข่าวมั่ว และเป็นการนำภาพผู้ป่วยที่แพ้ยาจากสาเหตุอื่นมาสร้างข่าว เพื่อให้เกิดความตื่นตระหนก

เกี่ยวกับเรื่องนี้  พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท.ในฐานะ โฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า ทางศูนย์เฝ้าระวังโซเชียลของ บก.ปอท. ได้ตรวจสอบพบข่าวดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทราบว่า เป็นเว็บไซต์ gmmwork.com โดยทาง ผบก.บก.ปอท.ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้เสนอกระทรวงดิจิตอลเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป

 

“อยากจะเตือนพี่น้องประชาชนในเรื่องการรับส่งข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์ ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งต่อหรือแชร์ เพราะนอกจากจะส่งข่าวปลอมแล้วยังอาจจะมีความผิดตาม พรบ.คอมพ์ การรับฟังข้อมูลข่าวสารควรตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของรัฐบาล หรือ หน่วยงานราชการ หรือ สำนักข่าวที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้” โฆษก บก.ปอท. กล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ยังได้ฝากเตือนประชาชนที่แชร์ข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทกัญชาอีกข่าวหนึ่งด้วยที่ระบุว่า กรณีข่าว “สายเขียว เฮลั่น! อนุมัติแล้ว คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้ที่บ้าน ไม่เกิน 50 ต้น”  ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทาง เลขาธิการ ปปส. ได้ออกมายืนยันแล้วว่า การเสนอข่าวดังกล่าวเป็นการนำเนื้อข่าวที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาแต่งเติม โดยมีการแทรกข้อความบางส่วนที่เขียนขึ้นเอง และประการสำคัญข้อความที่เติมแทรกมานั้น นอกจากเป็นข้อความอันเป็นเท็จ และได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับข่าวปลอมดังกล่าวตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ แล้ว

 

สุดท้าย มีมิจฉาชีพอาศัยสถานการณ์ฝุ่นละอองในขณะนี้ หลอกลวงขายหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองในโลกโซเชียล ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งในเรื่องนี้ทาง บก.ปอท. อยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามจับกุม ดังนั้น จึงอยากจะขอฝากเตือนประชาชน ก่อนจะสั่งซื้อสินค้าให้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า เช่น ชื่อร้านค้า,ชื่อเจ้าของร้าน,ชื่อเจ้าของบัญชี/เลขบัญชีธนาคาร,หมายเลขโทรศัพท์ ฯลฯ ไปตรวจสอบกับกูเกิล เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ