รวบ 'แจ๊ค คู้บอน' ค้ายาบ้ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 24 ล้าน

รวบ 'แจ๊ค คู้บอน' ค้ายาบ้ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 24 ล้าน

กก.ดส.รวบ "แจ๊ค คู้บอน" ผันตัวค้ายาบ้า พร้อมของกลางไอซ์ 3 กก. ยาบ้า 7,900 เม็ด มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 24 ล้าน

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบช.น. ดูแลงานยาเสพติด ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. , พ.ต.ท.กฤช กัญชนะ รอง ผกก.ดส. , พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. , ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ สุดจิตจูล ร.ต.ท.บุญตา ผันผาย รอง สว.กก.ดส. และชุดสืบสวน กก.ดส. เข้าทำการจับกุมนายธนาวุฒิ หรือแจ๊ค เทียนขวัญ อายุ 30 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 129 ซอยนาคนิวาส 57 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ส่วนนายไนน์ อายุ 19 ปี จับกุมได้บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 42 แขวง คลองกุ่ม เขต บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 3.1 กิโลกรัม ยาบ้า 7,908 เม็ด

ทั้งนี้ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนเครือข่ายยาเสพติดหลังรับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้จำหน่ายยาเสพติดย่านคู้บอน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค.เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุมนายไนน์ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 3.1 กิโลกรัม ยาบ้า 7,908 เม็ด และเมื่อสอบสวนนายไนน์ ให้การว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของนายธนาวุฒิ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอาศัยอำนาจตามบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายธนาวุฒิ บริเวณซอยนาคนิวาส 57 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร พร้อมพวกกำลังนั่งดื่มสุราอยู่ภายในบ้านดังกล่าว

จากการสอบสวนนายธนาวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ 3.1 กิโลกรัม ยาบ้า 7,908 เม็ด ที่ได้จากการจับกุมตัว นายไนน์นั้น เป็นของตนจริง และรับอีกว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะร่วมกับ นายยอด (สงวนชื่อนามสกุลจริง) ให้ติดต่อกับลูกค้าแล้วจึงสั่งซื้อยาเสพติดมาในปริมาณตามที่ลูกค้าสั่ง โดยจะให้นายไนน์ เป็นคนวิ่งไปรับยาเสพติด และไปส่งให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆที่นัดหมาย เมื่อได้เงินจากลูกค้าที่โอนเข้าบัญชีแล้ว ก็จะใช้ให้ น.ส.เบส (สงวนชื่อนามสกุล) เป็นผู้ไปกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม จากบัญชีที่มีการจ้างเปิดไว้ โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี มีรายได้ประมาณ 1-2 แสนบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบว่า นายธนาวุฒิ เคยถูกจับกุมคดีพรากผู้เยาว์ ประมาณปี 2552 ในพื้นที่ สน.ธรรมศาลา คดีพยามฆ่าผู้อื่น โดยพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 ซึ่งสาเหตุที่นายธนาวุฒิ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากทำร้านเหล้าย่านเกษตร-นวมินทร์ กับเพื่อน เนื่องจากถูกโกงเงิน จึงได้ผันตัวเข้ามาค้ายาเสพติด โดยมีเพื่อนคนหนึ่งได้ชักชวนให้เข้ามาทำงานด้วย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการขยายผลถึงตัวการ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของป.ป.ส. พบว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่าน นายธนาวุฒิ ไม่มีอาชีพอะไรแต่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 24 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายธนาวุฒิ พร้อมด้วย นายไนน์ ร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) เพื่อจำหน่าย พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป